รายได้ค้าชายแดน 1.38 ล้านล้าน สงขลา ช่วยอสังหาฯแค่ 10% อุดร เขยฝรั่งบูมเงียบ
จีดีพีประเทศไทยล่าสุด ณ ปี 2562 อยู่ที่ 16.87 ล้านล้านบาท ขณะที่จีดีพีปี 2563 คาดการณ์ (ณ 17 สิงหาคม 2563) ว่าจะหดตัว -12.2% ซึ่งไทยมีมูลค่าเศรษฐกิจการค้าชายแดน (ณ ปี 2561 โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์) มูลค่า 1.38 ล้านล้านบาท สัดส่วน 49.54% ของจีดีพีประเทศในปีเดียวกัน แบ่งเป็น มูลค่า “การค้าชายแดน” มูลค่า 1.12 ล้านล้านบาท และ “การค้าผ่านแดน” มูลค่า 2.64 แสนล้านบาท
ค้าชายแดน 4 เพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ ไทยมีการเปิดด่านการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชา จำนวนรวม 97 จุด ใน 23 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ เชียงราย น่าน ตาก กาญจนบุรี สระแก้ว หนองคาย ฯลฯ รวมถึง “การค้าผ่านแดน” ระหว่างไทยกับเวียดนาม สิงคโปร์ และจีนตอนใต้
ภายใต้สถานการณ์โรคระบาด โควิดมีการปิดจุดการค้าเหลือ 28 จุด และ ณ 17 สิงหาคม 2563 ไทยเปิดด่าน ค้าชายแดน 40 จุดด้วยกัน โดยครึ่งปีแรกมีมูลค่า 627,480 ล้านบาท
ท็อป 10 เมืองการค้าชายแดน
ในจำนวนนี้ ท็อป 10 มูลค่าการค้าชายแดน มีดังนี้ 1.สงขลา 642,221.44 ล้านบาท สัดส่วน 46.38% 2.มุกดาหาร 151,360.27 ล้านบาท 10.93% 3.สระแก้ว 91,817.51 ล้านบาท 6.63% 4.นครพนม 85,218.88 ล้านบาท หรือ 6.15% 5.ตาก 77,963.34 ล้านบาท 5.63%
6.กาญจนบุรี 75,824.62 ล้านบาท 5.46% 7.หนองคาย 62,326.27 ล้านบาท 4.5% 8.เชียงราย 51,690.37 ล้านบาท 3.73% 9.ตราด 36,234.25 ล้านบาท 2.62% และ 10.น่าน 29,857.16 ล้านบาท สัดส่วน 2.16%
ในขณะที่มี 2 เมืองหลักของภาค แต่มีมูลค่าการค้าชายแดนไม่สูงมากนัก ได้แก่ อุบลราชธานี มูลค่า 17,641.59 ล้านบาท สัดส่วน 1.27% อยู่อันดับ 12 และประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 967.13 ล้านบาท อยู่อันดับ 22 จาก 23 จังหวัดที่มีการค้าชายแดน ค้าชายแดนช่วยสงขลาแค่ 10%
“ศุภชัย รุจิเรืองโรจน์” นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สงขลา เป็นฮับหรือศูนย์กลาง 7 จังหวัดใต้ ได้แก่ สงขลา พัทลุง สตูล ตรัง ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ทั้งยังมีศูนย์ราชการ สถานศึกษา และสถานพยาบาล รวมถึง การย้ายถิ่นของคนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ 4-5 ปีที่ผ่านมา
ด้านกำลังซื้อ หาดใหญ่เป็นทำเลที่มีรายได้จากหลายแหล่ง เช่น การท่องเที่ยว ประมง การส่งออก โดยเฉพาะยางพารา ทำให้การเติบโตของ อสังหาฯในสงขลาจะอยู่ในหาดใหญ่กว่า 70-80% อำเภอเมืองอีก 20-30% เซ็กเมนต์ขายดีที่สุด คือ บ้านราคา 3-5 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 1-3 ล้านบาท ส่วนอำเภออื่น ๆ มีการเติบโตน้อยมาก แม้แต่อำเภอสะเดาที่เป็นพื้นที่รอยต่อรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย และเป็นด่านศุลกากรใหญ่ของจังหวัดก็มีอสังหาฯอยู่ไม่มาก
“น้ำหนักการค้าชายแดนส่งผลมาถึงอสังหาฯไม่เยอะตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ถึง 10% คนชอบมองว่าต่างชาติจะมาซื้ออสังหาฯในหาดใหญ่ แต่ไม่เหมือนภูเก็ต หรือเชียงใหม่ ที่นี่ต่างชาติ เขามาจับจ่ายใช้สอยหรือท่องเที่ยว ไม่ได้มีการลงทุนในภาคอสังหาฯมาก”
“ศุภชัย” กล่าวเพิ่มเติมว่า ด่านค้าชายแดนของไทยเป็นเพียงช่องทาง การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพาราเท่านั้น แต่จำนวนมูลค่ามากกว่าจังหวัดอื่นเพราะสินค้ายางพารามีราคาสูง และช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรประสบ ปัญหาใหญ่ คือ ราคายางตกต่ำอยู่แล้ว การปิดด่านช่วงโควิดที่ผ่านมา จึงกระทบรายได้ของผู้ผลิตยางเพิ่มขึ้น แต่จังหวัดยังมีรายได้จากจุดอื่นเข้ามา ทดแทนอยู่
ลาว-จีนข้ามฝั่งโขงช็อปที่อุดรฯ
“พันโทวรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ“นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์อุดรธานี เปิดเผยว่า การค้าชายแดนไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ชี้ว่าอสังหาฯในจังหวัดจะเป็นอย่างไร เพราะยังมีการค้าขาย เศรษฐกิจของประเทศและภูมิภาค รวมถึงปัจจุบัน อุดรฯมีประชากร 1.5 ล้านคน มีการเคลื่อนย้ายจากต่างอำเภอมาอยู่ในตัวเมืองมากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งงาน ผู้ปกครองต้องการส่งลูกหลาน มาเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัด
อุดรฯห่างชายแดน สปป.ลาว 50 กม. เดินทาง 1 ชั่วโมง โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนวงแหวนรอบเมืองและแผนสร้างรถไฟความเร็วสูงระหว่างรัฐบาลไทย-จีน เชื่อมกรุงเทพฯ-หนองคาย เฟสแรก กรุงเทพฯ-โคราช ตามแผนจะแล้วเสร็จปี 2569 ก่อนสร้างเฟส 2 โคราช-หนองคาย ทำให้อุดรฯเป็นพื้นที่ที่น่าจับตามองของธุรกิจอสังหาฯ
“เศรษฐกิจอุดรฯโตจากการเป็นเมืองค้าปลีกค้าส่ง มูลค่า 1.3 แสนล้านบาท สัดส่วน 14% ของจีพีพีจังหวัด (ข้อมูลคลังจังหวัดอุดรธานี ณ ปี 2561) รองจากเกษตรกรรม ร้านค้า พวกนี้อยู่ในเขตเมือง เช่น ร้านตั้งงี่สุน ตลาดโบ๊เบ๊ ตลาดภาค 5 แยก ส่วนการเกษตรมีตลาดเมืองทองเจริญศรี ซึ่งมีคนจีนและเวียงจันทน์เข้ามาซื้อด้วย แต่พอโควิดปิดด่าน ยอดขายค้าปลีกก็ลดลง 50%”
นอกจากนี้ คนจากเวียงจันทน์ยังเดินทางข้ามฝั่งโขงเพื่อใช้บริการ โรงพยาบาลจำนวนมาก การปิดด่านในช่วงที่ผ่านมาทำให้ยอดผู้ใช้บริการลดลง 40-50%
“ต่างชาติที่มาซื้ออสังหาฯไม่ใช่คนลาว ส่วนมากเป็นเขยฝรั่ง 30% มีทั้ง คนทางยุโรปเหนือ สแกนดิเนเวีย อเมริกาก็มี ซื้อในชื่อภรรยาคนไทย”
ทั้งนี้ อสังหาฯในอุดรธานีกว่า 90% เป็นแนวราบ เซ็กเมนต์ที่ขายได้ดีเป็นบ้านเดี่ยวราคา 1 ล้านปลาย-2.6 ล้านบาท, ทาวน์เฮาส์ 1 ล้านบาท ทำเลรอบนอกเมือง เนื่องจากพื้นที่ในเขตเทศบาลที่ดินราคาสูงไร่ละ 20 ล้านบาท
ขณะที่ชานเมืองไร่ละ 1-2 ล้านบาท ซึ่งเป็นต้นทุนที่ดีเวลอปเปอร์สามารถพัฒนาโครงการจัดสรรได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ