อมาธารา เรสซิเดนเซิส ระยอง The One and Only เทียบชั้นพูลวิลล่าภูเก็ต
อีกหนึ่งจิ๊กซอว์ความฝันเล็ก ๆ ของบิ๊กธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหญ่ “วิทวัส วิภากุล” ปักหมุด 180 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ บนทำเลที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอีอีซี เมืองระยอง ภายใต้แบรนด์ “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง”
ฮไลต์การพัฒนาโครงการที่นี่ ถอดประสบการณ์ความสำเร็จจากอมาธารา เวลเลเชอร์ รีสอร์ท บนเกาะภูเก็ต นำมาทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มี นำเสนอได้ครบถ้วนทั้งดีไซน์และเซอร์วิสระดับเวิลด์คลาส ความน่าสนใจอยู่ที่ อมาธารา ระยอง มีราคาแตกต่างจากภูเก็ตถึง 4 เท่า
ขอแค่เพียงได้เข้าไปเยี่ยมชมโครงการ ทางเจ้าของโครงการมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าลูกค้าแยกไม่ออกเลยว่าเป็นเรสซิเดนเซสอยู่ที่ระยอง เพราะหน้าตาและกลิ่นอายบรรยากาศการพักอาศัยถอดแบบมาจากเรสซิเดนเซสที่ภูเก็ต อย่างไรก็อย่างนั้นเลย
ทำเล The One and Only
โดย “วิทวัส วิภากุล” กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดประเด็นว่า เป็นความตั้งใจที่อยากพัฒนาโครงการระดับอัลตราลักเซอรี่ รองรับกลุ่มลูกค้า เป้าหมายที่มีการลงทุนและทำงานในพื้นที่ EEC (เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก)
ในขณะที่การเปิดตัวโครงการ อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง อาจกล่าวได้ว่าไร้คู่แข่งในเซ็กเมนต์เดียวกัน เพราะมีดีมานด์ฝังอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่มีซัพพลายมาเติมเต็ม โครงการนี้จึงถือเป็นโครงการแรกที่เจาะเซ็กเมนต์ราคายูนิตละ 35-160 ล้านบาท
“ระยองเป็นพื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจค่อนข้างสูง มีบริษัทอุตสาหกรรมจำนวนมากทั้งไทยและต่างชาติ ทำให้เรารู้ว่ากำลังซื้อของกลุ่มนักลงทุนจะสูงมาก อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง ตอบสนองเราในการพัฒนาพูลวิลล่าระดับลักเซอรี่”
ทั้งนี้ ปัจจัยพื้นฐานจากการที่จังหวัดระยองเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประดับชาติตามนโยบายพัฒนา EEC มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เต็มไปด้วยเกาะธรรมชาติ มีกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง ผลไม้ขึ้นชื่อ ที่สำคัญอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพียงการเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง-2 ชั่วโมงเท่านั้น
“สิ่งที่ผมดูต่อไปคือโลเกชั่นต้องไปต่อได้ จนกระทั่งเจอทำเล 92 ไร่ มีครบทั้งภูเขาและทะเล มองว่าเป็น The One and Only ในระยอง ที่จะทำสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งผมซื้อแลนด์แบงก์ผืนนี้ตั้งแต่ก่อนโควิด รอเวลาสุกงอมที่การท่องเที่ยวและการลงทุนเริ่มกลับมาคึกคักในปี 2567 มองว่าเป็นจังหวะที่ดีจึงได้จัดอีเวนต์ลอนช์โครงการอีกครั้ง”
การกลับมาหลังจากสถานการณ์โควิด ต้องบอกว่ามาพร้อมกับแผนลงทุนแบบรัว ๆ ไฮไลต์อยู่ที่การเปิดตัวบีชบาร์ที่ ถือเป็น Proudly Present ตั้งแต่ทีมงาน เบื้องหลัง เพราะเป็นโปรเจ็กต์แรกในไทยที่ได้จับมือกับบริษัทดีไซน์ชื่อดังระดับโลก “IBUKU Design Studio” มาร่วมออกแบบ “Bambu Beach Club” ไลฟ์สไตล์แลนด์มาร์กแห่งใหม่ติดทะเลระยอง
ความพิเศษของแบมบู บีช คลับ โปรเจ็กต์บีชบาร์ที่รังสรรค์โดยสถาปนิกจากอินโดนีเซีย และนำเข้าแรงงานฝีมือเฉพาะทางชาวอินโดเข้ามา ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้
“IBUKU โด่งดังจากผลงานการออกแบบสถานที่จากโครงสร้างธรรมชาติและไม้ไผ่มากกว่า 60 แห่งในบาหลี อินโดนีเซีย ลาสเวกัส ดูไบ มัลดีฟส์ ฮ่องกง แอฟริกาใต้ และอีกหลายประเทศ นับเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่จะได้ยลโฉม ผลงานของ IBUKU โดยไม่ต้องบินไปชมที่ต่างประเทศ เราเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าไปเช็กอิน มั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวห้ามพลาดของระยอง”
ถัดจากนี้ แผนลงทุนปี 2567 ตามต่อด้วยโปรเจ็กต์ก่อสร้างสกายบาร์ รองรับผู้พักอาศัย มีร้านอาหารระดับไฮเอนด์ มีอาหารเสริมจากทีมงานอมาธารา เวลเลเชอร์ รีสอร์ท ภูเก็ต และตามต่อด้วยโปรเจ็กต์โรงแรมขนาด 150 ห้อง มีคอนเวนชันฮอลล์ เวลเนสเซ็นเตอร์ รูปแบบเดียวกับที่ได้เปิดบริการในภูเก็ต
“อมาธารา ระยอง ผมให้ความสำคัญและตั้งใจมาก ตอนเริ่มต้นก่อสร้างโครงการขับรถมาดูแทบจะวันเว้นวัน เป็นโครงการเรสซิเดนเซสที่ผมเน้นกับทีมงานมากเลยว่าต้องใช้ไม้จริง บรรยากาศอยู่ท่ามกลางไม้ใหญ่ 5,000 ต้น ในโครงการขนาด 92 ไร่ ไม่ใช่แค่ไพรมแอเรีย แต่เป็นทำเล The One and Only จริง ๆ ในความรู้สึกผม”
พูลวิลล่า-Sea to Sand
รายละเอียดโครงการ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 92-3-12 ไร่ พัฒนาเป็นพูลวิลล่ามีระเบียงส่วนตัว เทกวิวทะเลอ่าวไทยแบบเต็มสายตา มาพร้อมกับบริการระดับ 5 ดาว
กิมมิกด้านการตลาด เพื่อสร้างโอกาสการขายให้กับลูกค้าต่างชาติกำลังซื้อสูง จึงจดทะเบียนจัดสรรเป็นโครงการอาคารชุด ซึ่งหมายถึงทำให้ลูกค้า ต่างชาติสามารถซื้อกรรมสิทธิ์ได้ 49% หรือที่เรียกว่าโควตา 49%
ประกอบด้วยโซนพูลวิลล่าริมชายหาด ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเข้าอยู่ จำนวนทั้งสิ้น 9 หลัง ออกแบบเป็นคอนโดมิเนียม 2 ชั้น ดังนั้น เอกสารสิทธิที่จะได้รับที่เรียกว่า ใบ อช. (เอกสารอาคารชุด) จะระบุ 9 หลัง แต่มี 18 ยูนิต หรือ 18 อช.
มีให้เลือกตั้งแต่อาคารชุดแบบ 2-3-4 ห้องนอน สไตล์คลาสสิกที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย เรียบหรู ในราคาเริ่มต้น 50135 ล้านบาท โดยได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากลูกค้าและนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ
กับโซนพูลวิลล่าบนเนินเขา เทกวิวทะเลหนึ่งเดียวในระยอง ดีไซน์ทันสมัยในคอนเซ็ปต์ “Sea to Sand” ใช้เทคนิคการออกแบบขั้นสูงให้กลมกลืน กับธรรมชาติ วิลล่าแต่ละหลังวาง ตำแหน่งไล่ระดับลงมาจากเนินเขาจนถึงชายหาด มองวิวทะเลแบบ พาโนรามาทุกยูนิต
โซนนี้โฟกัสกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผู้บริหารรุ่นใหม่ บ้านเฟสนี้เหมาะจะเป็น Hideaway Home ของผู้บริหารรุ่นใหม่กับพูลวิลล่าที่ตอบโจทย์การพักผ่อน ราคาเริ่มต้น 39-50 ล้านบาท
บูมฮับท่องเที่ยวด้านสุขภาพ
ถัดมา “กนกณัฐ อรรถญาณสกุล” กรรมการบริหาร อมาธารา เวลเลย์เชอร์ รีสอร์ท ผู้นำธุรกิจ Holistic Wellness ระดับ 5 ดาวที่มีชื่อเสียงจากภูเก็ต กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯลักเซอรี่มาแรง โดยมี เวลเนสเป็นปัจจัยสำคัญที่ไดรฟ์การตัดสินใจของกลุ่มลูกค้าเวลท์
ถอดรหัสเวลเนสออกมาเป็นคำอธิบาย WISE 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1.Well-Being ออกแบบประสบการณ์อยู่อาศัยที่ซัพพอร์ตชีวิตและสุขภาพที่ดี 2.Individualised สร้างสรรค์โครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสมแต่ละบุคคล 3.Small Steps ปรับสมดุลไลฟ์สไตล์ค่อยเป็นค่อยไปแบบยั่งยืน และ 4.Enjoyable ครีเอตการอยู่อาศัยที่ผ่อนคลายสำหรับทั้งครอบครัว
จุดเน้นอยู่ที่ อมาธารา เวลเลย์เชอร์ รีสอร์ท เป็นอาวุธลับที่จะเข้ามาช่วยผลักดันจังหวัดระยองให้เป็นโครงการเวลเนสแลนด์มาร์กใหม่ และเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่การเป็นฮับท่องเที่ยวด้านสุขภาพชั้นนำของโลก
ครบทั้งตากอากาศ-ซื้อลงทุน
สุดท้าย “อาทิตยา เกษมลาวัณย์” หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย หรือ CBRE กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการที่พักอาศัยตากอากาศลักเซอรี่ในต่างจังหวัด ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะโครงการที่ติดชายทะเล ส่วนใหญ่ซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง รวมทั้งซื้อลงทุนสร้างผลตอบแทนปล่อยเช่าในระยะยาว
เติมเต็มความน่าสนใจด้วยโมเดลการพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส มีครบทั้งเรสซิเดนเซส โรงแรม บีชบาร์ เวลเนส และบริการโรงแรมที่เรียกว่า Branded Residence จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากกว่าโครงการทั่วไป
นอกจากนี้ ระยองยังไม่เคยเปิดตัว โครงการมิกซ์ยูสที่มีที่พักอาศัยตากอากาศ ในรูปแบบพูลวิลล่ามาก่อน ทำให้ อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง มีความแตกต่าง และคาดว่าจะได้รับความสนใจที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับบน
บทสรุปก็คือ ซีบีอาร์อีเชื่อว่า Branded Residence Pool Villa จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าและสร้างมูลค่าให้กับโครงการในอนาคตได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ