FPT ผุด 7 โครงการหมื่นล้าน ขยายพื้นที่เช่ารับทรัพย์เพิ่ม
FPT มองตลาดอสังหา ปี 2567 ยังเติบโต แนะจับตาปัจจัยเสี่ยงจากใน-นอกประเทศ กางแผนเตรียมเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ 7 โครงการ มูลค่า 11,600 ล้านบาท พร้อมประเมินรายได้ที่ 13,003 ล้านบาท และยอดขายที่ 23,750 ล้านบาท เตรียมลงทุนธุรกิจโรงงานและคลังสินค้า 4,000 ล้านบาท ขยายพื้นที่เพิ่ม 150,000 ตารางเมตร
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 นี้ว่า ได้รับแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวที่ส่งผลให้ภาคเอกชนมีการบริโภคเพิ่มขึ้น บวกกับภาครัฐที่ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ อย่างมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่หลั่งไหลตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจ อาทิ ภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย หนี้ครัวเรือน และปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส
เปิด 7 โครงการหมื่นล้าน
ในปี 2567 ตั้งเป้าธุรกิจที่อยู่อาศัยทำรายได้กว่า 13,003 ล้านบาท เติบโต 18% เทียบกับปีที่ผ่านมา และตั้งเป้ายอดขายที่ 23,750 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนราว 5% พร้อมเปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 11,600 ล้านบาท โดยบริษัทยังเดินหน้าต่อเนื่องกับการจับตลาดบ้านเดี่ยวและบ้านลักซ์ชัวรี
นอกจากนี้บริษัทเตรียมลงทุน ธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าที่จะลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท ในการขยายพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการอีก 150,000 ตารางเมตร เพิ่มจากปัจจุบันที่ 3.5 ล้านตารางเมตร ทั้งในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ด้วยเป้าหมายอัตราการเช่าอยู่ที่ 87%
พร้อมมีแผนลงทุนต่อเนื่องเพื่อ มุ่งสู่พื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการ 4 ล้านตารางเมตร ในอีก 2 ปี นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นยกระดับการให้บริการอาคารสำนักงานเกรดเอ ย่าน CBD และพื้นที่รีเทลอย่างสามย่านมิตรทาวน์ และสีลม เอจที่เชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาอัตราการเช่าในระดับสูงที่ 93% เพื่อเพิ่มกระแสรายได้จากค่าเช่าให้เติบโตแข็งแกร่ง
ปี 70 รายได้ 30,000 ล.
โดยตั้งเป้าว่าในปี 2570 บริษัทจะสร้างรายได้กว่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ จากการขาย และรายได้ประจำอยู่ที่ 4060 สะท้อนถึงความพร้อมในการเติบโตระยะยาวภายใต้การเป็นแบรนด์ อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกที่มีทีมงานมากประสบการณ์และความชำนาญหลายด้าน พร้อมต่อยอดในการพัฒนาสินค้าและบริการคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าและผู้ใช้งานทุกกลุ่ม
แม้จะเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายด้าน แต่ FPT ยังคงความสามารถในการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยแผนกลยุทธ์ที่มีความยืดหยุ่น มีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง และมีธุรกิจที่หลากหลายซึ่งสามารถสร้างรายได้อย่างสมดุลจากการขายและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มีกระแสรายได้ต่อเนื่องและที่สำคัญบริษัทยังเดินหน้าตามภารกิจยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ผ่านการต่อยอดนวัตกรรมการบริการด้วยการเป็น “Real Estate as a Service Brand” ตามโรดแมป FPT Next 2025 ครอบคลุมการดำเนินงาน 3 มิติ Space-Community-Sustainability ผนวกใน 3 กลุ่มธุรกิจทั้งที่อยู่อาศัยอุตสาหกรรม-พาณิชยกรรม ตอบรับทุกความต้องการที่หลากหลายของ ลูกค้าและผู้ใช้งาน พร้อมยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ก้าวไปอีกขั้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น