อสังหาฯ จับตาศก.โรคระบาด
นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์ และบริหารสินทรัพย์ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากสำรวจภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งหลังปี 2562 และต้นปี 2563 พบว่า ช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ตลาดโดยรวมปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากผู้ประกอบการเน้นการเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์มากขึ้น มีการจูงใจด้วยข้อเสนอและโปรโมชั่นที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจ ส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี โดยบ้านเดี่ยวมีความโดดเด่นมากที่สุดเนื่องจากเหลือขายลดลงด้วยกลยุทธ์ที่เน้นการระบายสต๊อกแทนการเปิดตัวโครงการใหม่ ประกอบกับความต้องการยังมีปริมาณใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการบ้านเดี่ยวยังอยู่ในระดับที่ดี โดยระดับราคา 10-20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในรอบสำรวจนี้โซนตะวันตก (บางบัวทอง บางใหญ่ ศาลายา) มียอดขายช่วงครึ่งปีหลัง 2562 สูงถึง 45% ขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในอนาคตตลาดแนวราบยังคงไปได้ โดยเน้นกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่จริง (Real Demand) และพัฒนาโครงการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นโดยเฉพาะระดับกลาง-บน
“ปี 62 มีจำนวนยูนิตที่ขายรวม 21,000 ยูนิต และมียอดขายได้อยู่ที่ 56% ในขณะที่ความต้องการลดลงจากปีก่อน 6% มาอยู่ที่ 11,800 ยูนิต แต่โซนตะวันตกในพื้นที่ศาลายา-บางใหญ่ และโซนใต้ของกรุงเทพฯ (เพชรเกษม พระราม 2 บางขุนเทียน) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยระดับราคา 5-7 ล้านบาทเติบโตมากสุดรองลงมาคือระดับราคา 10-20 ล้านบาท” นางสาวสุวรรณี กล่าวและว่า แนวโน้มการเติบโตของตลาดบ้านเดี่ยวยังมีแรงส่งมาถึงปี 2563 ที่ผู้ประกอบการยังคงเน้นกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง และมีปัจจัยด้านนโยบายและดอกเบี้ยของภาครัฐที่ช่วยสนับสนุน แต่ก็ยังมีปัจจัยลบที่ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจคือการระบาดของไวรัสโควิด-19
รายงานข่าวจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ แจ้งว่า ภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างด้าว ปี 2562 พบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างด้าวทั่วประเทศ จำนวน 13,232 ยูนิต คิดเป็น 10.5% มูลค่าการโอนห้องชุดอยู่ที่ 52,070 ล้านบาท คิดเป็น 16.4% เมื่อเทียบกับปี 2561 พบว่าคนต่างด้าวมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดลดลง 9.9% มูลค่าลดลง 12.0% โดยห้องชุดที่คนต่างด้าวโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 มีมูลค่าเฉลี่ยต่อยูนิตที่ 3.94 ล้านบาท และพื้นที่เฉลี่ย 39.4 ตารางเมตร
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน