บ้าน-คอนโด ลักชัวรี่ ยอดขายลิ่ว
5เศรษฐีต่างชาติไล่ซื้อกลางเมือง
ไรมอนแลนด์ผุด 'แพงสุด' พันล้าน
ตลาดลักชัวรี่ไปได้สวย 'ไรมอนแลนด์' ยิ้ม 2 โครงการใจกลางเมือง 'พร้อมพงษ์-สาทร'ยอดขายไม่แผ่ว เศรษฐีไทย-ต่างชาติแห่ช้อป เผยจีนทุ่มซื้อห้องชุด 110 ล้าน ปี'67 ลุยต่อคอนโด-วิลล่าหรู ปักหมุดสุขุมวิท ภูเก็ต เริ่มต้น 300 ล้าน/หลัง แพงสุด 1,000 ล้าน/หลัง หันร่วมทุนเจ้าของที่ดินลดภาระแลนด์แบงก์
นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปี เนื่องจากลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ส่วนใหญ่ซื้อสดและไม่ได้ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและความผันผวนจากปัจจัยที่เกิดขึ้น รวมถึงไม่อ่อนไหวจากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ประกอบกับ ยังมีลูกค้าต่างชาติเข้ามาซื้อเพิ่มขึ้น และต้องการซื้อเป็นห้องขนาดใหญ่มากขึ้นด้วย และมองหาซื้อคอนโดมิเนียมในไทยเป็นบ้านหลังที่ 2 ทำให้บริษัทโฟกัสพัฒนาโครงการลักชัวรี่มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมียอดขายรวม 2,100 ล้านบาท และมี 2 โครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ระหว่างขาย ได้แก่ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ มูลค่า 5,200 ล้านบาท 146 ยูนิต เหลือแค่ 3 ยูนิต โดยปรับราคาขาย 20% อยู่ที่ 256,000 บาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) เพื่อปิดการขายโดยเร็ว และเทตต์ สาทร ทเวลฟ์ มูลค่า 4,400 ล้านบาท เป็นโครงการร่วมทุนกับโตเกียว ทาเทโมโนะ สูง 40 ชั้น 231 ยูนิต มียอดขายแล้ว 97% อยู่ระหว่างทยอยโอนให้ลูกค้า และเหลือ 10 ยูนิต ตั้งเป้าถึงสิ้นปี 2566 มียอดโอน 2,600 ล้านบาท โดยไตรมาส 3/2566 โอนแล้ว 1,800 ล้านบาท คาดปิดการขายต้นปี 2567
“ปัจจุบันมีโควต้าลูกค้าชาวต่างชาติแล้ว 40% โดยชาวต่างชาติที่ซื้อ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน อเมริกัน สิงคโปร์ ไต้หวัน และออสเตรเลีย ส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่เอง 60% ลงทุน 40% โดยชาวจีนซื้อราคาแพงสุด 110 ล้านบาท เป็นห้องขนาด 180 ตร.ม. เป็นการซื้อ 3 ห้องมาคอมบายให้เป็นขนาดใหญ่ เพราะโครงการนี้เราไม่มีห้องเพนต์เฮ้าส์” นายกรณ์กล่าว
นายกรณ์กล่าวว่า สำหรับแผนการเปิดโครงการของบริษัทปี 2567 คงเดินหน้าเปิดโครงการระดับลักชัวรี่และซุปเปอร์ลักชัวรี่ต่อเนื่อง ประมาณ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และแนวราบ 2 โครงการ โดยเป็นปีแรกที่เปิดขายโครงการแนวราบระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ใน 2 ทำเล ได้แก่ สุขุมวิทย่านพร้อมพงษ์ เป็นบ้านเดี่ยวอัลตร้าลักชัวรี่ เกิน 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 300 ล้านบาท และโครงการวิลล่าหรูที่หาดกมลา จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่ 23 ไร่ 10 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 600-1,000 ล้านบาท ขณะนี้กำลังปรับรูปแบบ ส่วนคอนโดมิเนียมอยู่ในย่านซีบีดี
สำหรับแผนการซื้อที่ดินใหม่ได้ชะลอซื้อที่ดินไว้เป็นแลนด์แบงก์ เพราะการซื้อที่ดินและต้องรอการพัฒนา ทำให้มีภาระด้านดอกเบี้ยและภาษีสูง ส่งผลต่อต้นทุนบริษัทสูงขึ้น ยังเสี่ยงในการขออนุญาตด้านรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ที่เข้มข้นมากขึ้น จึงปรับแผนเป็นการร่วมกับพันธมิตรเจ้าของที่ดิน เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการ แต่ยังไม่ปิดโอกาสในการซื้อที่ดินที่เป็นทำเล มีศักยภาพและราคาไม่สูงมากจนเกินไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน