ส่องอสังหาฯครึ่งปีหลัง มั่นใจลูกค้าต่างชาติกลับมาโอนห้องชุด

06 ก.ค. 2563 346 0

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งปีแรก ถ้าจะเรียกว่าอยู่กลางพายุก็คงไม่แปลก ปัจจัยลบจำนวนมากที่กดดันผู้ประกอบการทุกราย ทั้งผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง กำลังซื้อจากต่างชาติถดถอย ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ถูกดีเลย์จากการปิดประเทศ และความเข้มงวดของธนาคารในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อผู้ซื้อบ้าน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้อัตรารีเจกต์เรตเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯ ส่วนใหญ่เลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป

          ด้านศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่าในปี 63 จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศจำนวน 311,719 หน่วย ลดลง 16.7% จากปี 62 มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์รวม 746,206 ล้านบาท ลดลง 14.8% จากปี 62 ในจำนวนดังกล่าวประมาณการเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจำนวน 160,350 หน่วย มูลค่ารวม 472,401 ล้านบาท ลดลงจากปี 62 ที่ 19.1% และลดลง 17.4% ตามลำดับ ประมาณการหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ในภูมิภาครวม 151,369 หน่วย มูลค่ารวม 273,805 ล้านบาท ลดลงจากปี 62 ที่ 14.0% และลดลง 9.9% ตามลำดับ

          นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไรมอน แลนด์ (RML) กล่าวว่า หากสถานการณ์คลายล็อกดาวน์แล้ว และเปิดให้มีการเดินทางระหว่างประเทศได้นั้น ลูกค้าต่างชาติที่เคยดีลการขายไว้ก่อนหน้านี้ จะสามารถเดินทางกลับมาโอนกรรมสิทธิ์อย่างเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งปีหลัง ปัจจุบันลูกค้าชาวจีนยังไม่มีสัญญาณการยกเลิกการจองในโครงการดังกล่าว

          ส่วนเป้าหมายการดำเนินงานในปี 63 บริษัทปรับเป้ารายได้ลดลงเหลือ 2.5-3.0 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4 พันล้านบาท  อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าแนวโน้มรายได้จะดีขึ้น หากมีการประกาศคลายล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ และเปิดให้มีการเดินทางระหว่างประเทศของชาวต่างชาติสู่ภาวะเป็นปกติ

          นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) กล่าวว่า บริษัทยังเชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติจะทำให้การโอนโครงการให้กับลูกค้าทำได้มากขึ้น โดยจะมีโครงการคอนโดมิเนียมทยอยโอนเพิ่มเข้ามา 3 โครงการตั้งแต่ไตรมาส 3/63 ขณะที่ครึ่งปีหลังเตรียมกลับมาเดินหน้าเปิดโครงการใหม่อีก6 โครงการ มูลค่ารวม 2.4 หมื่นล้านบาท

          “มั่นใจยอดขายปีนี้จะเป็นไปตาม เป้าหมาย 1.2 หมื่นล้านบาท แม้ว่าช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาทำได้เพียง 1.4-1.5 พันล้านบาท และรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาทเช่นเดียวกัน”

          นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทหันมาเน้นการขายสินค้าพร้อมโอนมากขึ้น ซึ่งได้เข้าไปแข่งขันราคากับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นที่มีการปรับลดราคากันลงมา เพื่อทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และทำให้ระบายสต๊อกออกไปได้เร็วมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียมที่มีการแข่งขันกันมาก ซึ่งบริษัทคาดหวังจะ ระบายสต๊อกในปีนี้ออกไปได้กว่า 6 พันล้านบาท จากสต๊อกที่มีอยู่รวม 2.5 หมื่นล้านบาท

          สำหรับการเปิดโครงการใหม่ตามแผนงานที่วางไว้ตั้งแต่ในช่วงต้นปีจะเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ทั้งหมด 10 โครงการ มูลค่ารวม 7.5 พันล้านบาท บริษัทอาจจะพิจารณาเลื่อนการเปิด 3 โครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นออกไปเป็นปี 64 ได้แก่ โครงการ ปิติ สมเด็จเจ้าพระยา และโครงการ นิชไพรด์ บางโพ

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย