เห่อของแบรนด์หรู เมินเก็บเงินซื้อบ้าน
นิยมช้อปมือถือ-นาฬิกา ผลสำรวจเทรนด์เจนแซด ฮิตเช่าคอนโดฯ-บ้านพัก อสังหาฯปรับตัวรับกระแส
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ชี้พฤติกรรมเจนแซด ไร้เงินเก็บ ไม่ซื้อบ้าน เน้นเช่าคอนโดฯอพาร์ตเมนต์ 5-8 พันบาทต่อเดือน กลางเมือง ใกล้ที่ทำงาน ฮิตช้อปแบรนด์เนม โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา เสื้อผ้า-เครื่องประดับหรู ก่อนซื้อที่อยู่อาศัย
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ว่าประชากร Gen Z ถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ เกิดในช่วงปี 2538-2552 อายุระหว่าง 14-28 ปี ประชากรกลุ่มนี้เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรายล้อมตัว
“ว่ากันว่าประชากรกลุ่มนี้เรียนรู้ไว และกล้าตัดสินใจรวดเร็ว ในมุมมองของการเลือกซื้อสินค้าและบริการ ประชากรกลุ่มนี้จะศึกษาข้อมูล ดูรีวิวต่างๆ จากโลกออนไลน์ด้วย ตัวเอง และในแง่กำลังซื้อแล้ว นักการตลาดมองว่า กลุ่มคน Gen Z ยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อการซื้อ หากสินค้าและบริการนั้นๆ บ่งบอกถึงตัวตน บุคลิกภาพ หรือเป็นประเด็นที่พวกเขาสนใจ” นายโสภณกล่าว
นายโสภณยังมองว่า ส่วนการซื้อขาย ที่อยู่อาศัยหดตัวลงบ้างในครึ่งแรกของปี 2566 เป็นเพราะ 1.ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี และประชาชนมีหนี้ครัวเรือนสูงมากเป็นพิเศษ จึงทำให้ดูเหมือนเกิดการชะลอตัว ของตลาดที่อยู่อาศัย 2.ประชากรกลุ่มคน Gen Z นี้เพิ่งจบการศึกษามา จึงยังไม่มีเงินพอที่จะซื้อบ้าน และปกติก่อนที่คนจะซื้อบ้าน ก็ต้องเก็บเงินออมไว้ระยะหนึ่งก่อน และรอภาวะที่มีครอบครัวเสียก่อน จึงจะซื้อบ้าน 3.ก่อนหน้านี้ที่มีคนหนุ่มสาวซื้อบ้าน ส่วนหนึ่งเพราะถูกโฆษณาชวนเชื่อส่งเสริมให้คน ซื้อบ้านและห้องชุดกันมากๆ เพื่อประโยชน์ในการขาย โดยโฆษณาว่าจะได้เกิดมูลค่าเพิ่ม (Capital Gain) และสามารถปล่อยเช่า ทำกำไร (Return on Investment) แต่ใน ขณะนี้อัตราผลตอบแทนต่ำมาก หากประชากรใน Gen Z ที่พอมีเงินบ้าง จึงไม่ซื้อ เพราะไม่สามารถทำกำไรได้ดีเท่าที่ควรแล้วในขณะนี้
4.ปกติประชากรคนหนุ่มสาวคือ Gen Z ในขณะนี้ หรือ Gen อื่นๆ ที่อยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว มักจะซื้อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ก่อน เช่น โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา เสื้อผ้าแพงๆ หรือเครื่องประดับต่างๆ ก่อนที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ประชากร Gen Z จะยังไม่ซื้อบ้านหรือห้องชุด 5.ปกติในวัยนี้ ประชากร Gen Z ส่วนมากยังไม่มีครอบครัว มักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ จึงยังไม่ซื้อบ้าน แต่สำหรับผู้ที่เช่าบ้าน คงเป็นเพราะทำงานอยู่ไกลบ้าน จึงเช่าบ้านไว้ต่างหาก หรืออยากออกมาอยู่นอกบ้านบ้างเพื่อความเป็นอิสระ ซึ่งเป็นธรรมชาติเช่นนี้เช่นเดียวกับ Gen อื่นๆ ในช่วงที่ยังเป็นคนหนุ่มสาวอยู่นั่นเอง
6.พฤติกรรมการเช่าบ้านของคนหนุ่มสาวก็มักเช่าอยู่ไม่ไกลจากใจกลางกรุงมากนัก เพราะสะดวกกับการเดินทาง ส่วนมากคงเช่าจากอพาร์ตเมนต์ต่างๆ ที่มีราคาไม่แพงนัก เช่น 5,000-8,000 บาท หรืออาจเช่าจากห้องชุดมือสองในโครงการอาคารชุด มือสองใจกลางเมือง
นายโสภณบอกอีกว่า สำหรับทำเลแนะนำในการเช่าห้องชุดหรืออพาร์ตเมนต์ในเมือง ได้แก่ 1.สุขุมวิทช่วงตั้งแต่ซอยเอกมัยจนถึงบางนา-ตราด หรืออาจเลยไปถึงสำโรงและปากน้ำ เพราะสามารถเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียว 2.พหลโยธินตั้งแต่ช่วงต้นถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 3.ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ผ่านแถวเขตห้วยขวาง เขตจตุจักร 4.ถนนกรุงธนบุรี ถนนตากสิน รวมไปจนถึงเขตบางพลัด ซึ่งสามารถเข้าเมืองได้ด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน 5.บริเวณเขตยานนาวา สาทร ซึ่งยังมีห้องชุด อพาร์ตเมนต์ราคาไม่แพงให้เช่าอยู่เป็นอันมาก เดือนละ 6,000 บาทขึ้นไป เป็นต้น
“เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ในการซื้อบ้านยุคใหม่นี้ ผู้ซื้อก็อาจเริ่มต้นที่ห้องชุดสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และห้องชุดเป็นที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ถึง 55% ของสินค้าทั้งหมดที่เปิดขายในแต่ละปี ส่วนผู้ที่มีอายุมากขึ้น เช่น 40 ปีขึ้นไป อาจซื้อทาวน์เฮาส์หรือบ้านเดี่ยวแทน ที่อยู่อาศัยจึงพลวัต (Dynamic) ไปตามอายุและฐานะทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเป็นประชากรใน Gen ใดๆ โดยเฉพาะ” นายโสภณกล่าว
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่า การที่กำลังซื้อคนรุ่นใหม่ลดลง คงเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีกำลังซื้อหรือกู้แบงก์ไม่ผ่าน ประกอบกับคนเริ่มกลับมาทำงาน จึงทำให้ตลาดเช่าคอนโดมิเนียมกลับมาคึกคักและมองหาคอนโดอยู่ใกล้ที่ทำงานหรือใกล้มหาวิทยาลัย เห็นได้จากการขยายตัวของตลาดแคมปัสคอนโดที่บริษัทรุกตลาดถึงปี 2566 ร่วม 5 ปี จำนวน 16 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.5-2.5 ล้านบาท เช่น ม.บูรพา ม.กรุงเทพ ม.ธรรมศาสตร์รังสิต ม.ศรีปทุม ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลองหก เป็นต้น
“ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี ทั้งซื้ออยู่เองและซื้อลงทุน เพราะได้ผลตอบแทนมากถึง 6-9% สามารถปล่อยเช่าได้ในราคา 9,000-16,000 บาทต่อเดือน เมื่อเทียบกับหอพักแล้ว อยู่คอนโดคุณภาพชีวิตน่าจะดีกว่า เพราะมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้” นายกรมเชษฐ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด เครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังตลาดเช่ากลับมาดีขึ้น ทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ให้สอดรับกับเทรนด์ โดยจะพัฒนาคอนโดมิเนียมสำหรับเพื่อการลงทุนโดยเฉพาะ เน้นทำเลเป็นแหล่งงาน นิคมอุตสาหกรรม สถานศึกษา คาดจะเริ่มได้ภายในปีนี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน