บิ๊กอสังหาฯกว้านซื้อที่ดินตุน
10ค่ายชั้นนำทุ่มกว่า7.2หมื่นล้าน
‘แสนสิริ เอพี ออริจิ้น’ เทงบสูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปี 2566 บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ยังคงตั้งงบซื้อที่ดินร่วม 72,500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง รับกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มฟื้นตัวทั้งแนวราบและแนวสูง หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายและการท่องเที่ยวกลับมาใกล้เป็นปกติ
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า ปีนี้บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินไว้ประมาณ 1-2 พันล้านบาท เพื่อแต่งรูปแปลงที่ดินเป็นแลนด์แบงก์ที่ซื้อไว้ให้สวย เช่น เปิดทางเข้าออก พัฒนาโครงการ โดยปีนี้มีแผนเปิดโครงการใหม่ 12-13 โครงการ ทำเลกรุงเทพฯ โซนเหนือ ตะวันออก ตะวันตก และเป็นแนวราบทั้งหมด ซึ่งทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ คงมีการลงทุนบ้านลักชัวรี่ต่อเนื่อง แต่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นหลังเกิดคดีตู้ห่าวทำให้ตลาดชะลอชั่วคราว คงต้อง ใช้เวลากว่าจะกลับเป็นปกติ
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้จะขยายการลงทุนธุรกิจอสังหาฯมากขึ้น ทั้งแนวราบ และคอนโด โดยตั้งงบซื้อที่ดินไว้ 1 หมื่นล้านบาท รองรับการพัฒนาโครงการใหม่ของทั้งเครือ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้อยู่ที่ 8 พันล้านบาท ซึ่งราคาที่ดินปรับขึ้น ทุกปีเฉลี่ย 5-10% ไม่หวือหวาเหมือนยุคที่คอนโดบูม โดยนโยบายซื้อแล้วพัฒนาทันที
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้แสนสิริเตรียมงบ 1 หมื่นล้านบาทสำหรับซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาใหม่ในอนาคต ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด ซึ่งเพิ่มจากปัจจุบันมีแลนด์แบงก์ในมือเพียงพอในการพัฒนาปีนี้แล้ว 52 โครงการ ส่วนค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของบริษัทเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 200-300 ล้านบาท
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้เตรียมงบซื้อที่ดิน 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ปีก่อนเล็กน้อย โดยเน้นทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก รองรับโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ซึ่งซื้อเพิ่มจากปัจจุบันมีแลนด์แบงก์ อยู่กว่า 1 หมื่นล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทปรับแผนการซื้อที่ดินใหม่ เน้นเฉพาะทำเลขายดี และอยู่ในแผน เช่น กรุงเทพฯโซน ตะวันออกและตะวันตก ส่วนที่ดินบางแปลงซื้อไว้นานแล้วแต่ศักยภาพเปลี่ยน เสี่ยงโอเวอร์ซัพพลาย จะนำมาขายออก เช่น เพลินจิต ทองหล่อ และยังไม่คิด ซื้อเพิ่ม โดยปี 2566 มีโครงการกำลังพัฒนา 5 หมื่นล้านบาท และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น เน้นทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเพิ่มพอร์ตตลาดบ้านไฮเอนด์ราคา 20-40 ล้านบาทมากขึ้น และเร่งระบายสต๊อกบ้านและคอนโดพร้อมอยู่ มีมูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท ให้หมดภายในปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีผู้ประกอบการอีกมากจะซื้อที่ดินเพิ่ม เช่น บริษัท ศุภาลัย เตรียมงบซื้อที่ดิน 8 พันล้านบาท จากปีก่อนซื้อ 40 แปลง มูลค่า 6 พันล้านบาท บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) เตรียมเงิน 5-6 พันล้านบาท รองรับการพัฒนาโครงการใหม่ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ตั้งงบไว้ 6 พันล้านบาท เพิ่มจากมีแลนด์แบงก์ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมระบุราคาที่ดินสูงขึ้นทุกปีเฉลี่ย 5% ซื้อราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อตารางวา บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มีแผนซื้อ 1.5 พันล้านบาท พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ในกรุงเทพฯ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ บุกทั่วประเทศ เน้นแนวราบ ตั้งงบซื้อโซนเก่าที่ขายดีและโซนใหม่ 2 หมื่นล้านบาท บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ตั้งงบ 3-4 พันล้านบาท รองรับ 10 โครงการใหม่
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน