ปี66 คลังสินค้าให้เช่า-นิคมฯ ดาวเด่นตลาด เปิดปท.นักท่องเที่ยวทะลักหนุนธุรกิจค้าปลีก
“คอลลิเออร์สฯ” ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจปี พ.ศ. 2566 ยังเติบโต หนุนให้ธุรกิจอุตฯ คลังสินค้าให้เช่า และธุรกิจนิคมฯยังเป็นอีกหนึ่งดาวเด่นของตลาดอสังหาฯ เผยผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด มียอดเช่าสัญญาใหม่ในคลังสินค้าและโรงงาน และศูนย์กระจายสินค้าถึง 2.5 แสนตร.ม. ส่วนธุรกิจค้าปลีก ได้รับอานิสงส์การเปิดประเทศต่อเนื่อง
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจอุตสาหกรรม คลังสินค้าให้เช่า และนิคมอุตสาหกรรมว่า ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย มองว่าจะยังคงเป็นอีกดาวเด่นที่สำคัญของภาคอสังหาริมทรัพย์อีกหนึ่งประเภทในปีพ.ศ. 2566 ต่อเนื่องจากในปีพ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะคลังสินค้าให้เช่า ความต้องการคลังสินค้าคุณภาพสูง รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าและโรงงานของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และผู้ประกอบการในกลุ่มคอนซูเมอร์ ที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา ยังมีความต้องการอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย พบว่า ณ สิ้น ปี พ.ศ. 2565 คลังสินค้าและโรงงาน รวมถึงศูนย์กระจายสินค้า มียอดการเช่าสัญญาใหม่มากกว่า 250,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) โดยพบว่าผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาด ยังสามารถปล่อยเช่าพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และยังคงไม่ปรับลดเป้าผลประกอบการในปีนี้
ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย คาดการณ์ว่า ทิศทางธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานในปีพ.ศ.2566 จะยังสามารถเติบโตได้ดี ความสนใจเช่าพื้นที่คลังสินค้าสำเร็จ (Built-to-Suit) และ Warehouse Farm ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ประกอบการต่างชาติ ยังมีความสนใจจะลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทยอยู่มาก บวกกับความต้องการในภาคการส่งออกสินค้าหลายกลุ่ม เช่น ธุรกิจแปรรูปอาหาร ธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ ธุรกิจออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์
สำหรับตลาดพื้นที่ค้าปลีกในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา พบว่า ผู้พัฒนารายใหญ่ในธุรกิจค้าปลีก ยังคงมองหาโอกาสการพัฒนาและการขยายธุรกิจ ทั้งในพื้นที่ใจกลางเมืองและพื้นที่โดยรอบอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่ค้าปลีกที่เปิดบริการใหม่ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากการปิดปรับปรุงพื้นที่ในช่วงก่อนหน้า และกลับมาเปิดตัวอีกครั้งหลังจากการปรับปรุงพื้นที่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งในปีพ.ศ. 2565 ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย พบว่า โครงการพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่โดยรอบ เปิดตัวใหม่ทั้งในพื้นที่ใจกลางเมืองและริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นการพัฒนาของผู้พัฒนารายใหญ่ตลาด
แม้ว่าจะมีผู้เช่าบางรายที่ขอคืนพื้นที่เช่า แต่พบว่ามีผู้เช่ารายใหญ่ที่เป็นแบรนด์สินค้าของต่างประเทศ ทั้งที่ขายสินค้าอุปโภคและบริโภค ยังคงมองหาพื้นที่เช่าเพิ่มเติมเพื่อการขยายสาขา ทั้งในส่วนของร้านอาหารชื่อดังหรือแม้กระทั่งแบรนด์เสื้อผ้า ซึ่งเรายังคงเห็นภาพของการเปิดสาขาหรือเปิดร้านของแบรนด์ต่างๆเหล่านี้ต่อเนื่องในช่วง ที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่เช่าที่เคยว่างลงมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาแทนที่ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศไทยจะยังคงอยู่ในภาวะที่น่ากังวล
จากปัจจัยบวกในเรื่องของการประกาศเปิดประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมาก สามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา เป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับตลาดพื้นที่ค้าปลีกในประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้งในปีพ.ศ.2566
แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยสำคัญและมีผลต่อธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างท้าทายให้ผู้พัฒนาพื้นที่ค้าปลีกต้องปรับตัว ผู้พัฒนารายใหญ่ยังคงใช้ช่วงเวลานี้ ในการปรับปรุงพื้นที่ให้ทันสมัย เพื่อสำหรับการรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคของชีวิตวิถีใหม่ ซึ่งผู้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกมีความจำเป็นต้องปรับการดำเนินธุรกิจใหม่ตั้งแต่ การปรับองค์กรให้อยู่รอด การปรับบิสิเนสโมเดลใหม่เน้นความแตกต่าง การเข้ายุคดิจิทัลมุ่งสู่ออมนิ ชาแนล มีการทำตลาดแบบหลายช่องทางสอดรับพฤติกรรมลูกค้าที่หลากหลายในการใช้ช่องทางซื้อ
“แม้ขณะนี้ ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในเรื่องการจับจ่ายมากขึ้น แต่ก็ให้ความสำคัญต่อสุขภาพ ผู้บริโภคยินดีใช้จ่ายในด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งมองหาประสบการณ์ที่จะช่วยเชื่อมต่อโลกเสมือนจริงกับโลกที่เป็นอยู่ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน”
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา