DHOUSE มีลุ้นพลิกกำไรบุ๊กเงินค้าปลีก-เช่าพื้นที่

12 ม.ค. 2566 293 0

          พงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร” บิ๊กบอส DHOUSE ส่งซิกผลงานปีเถาะเทิร์นอะราวด์ เตรียมบุ๊กรายได้ธุรกิจค้าปลีก และเช่าพื้นที่ ในสถานีบริการน้ำมันเข้าเต็มปี พร้อมวางกลยุทธ์ขยายพื้นที่ให้เช่า คาดรายได้ชน 200 ล้านบาท เดินหน้าเปิด U Park Market กดปุ่มให้บริการไตรมาส 2/2566 นี้

          นายพงศ์พจน์  เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม ในจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการปี 2566 จะเทิร์นอะราวด์หรือพลิกมีกำไร จากปี 2565 ผลงานน่าจะติดลบ เนื่องจากช่วง 9 เดือนปี 2565 ผลงานยังไม่ฟื้นตัว สำหรับปัจจัยหนุนผลประกอบการจะมาจากรายได้จากธุรกิจค้าปลีก และการเช่าพื้นที่ โดยปลายปี 2565 บริษัทเปิดสถานีบริการน้ำมัน และในปี 2566 จะรับรู้รายได้เช่าพื้นที่ และค้าปลีกเข้ามาเต็มปี

          ลุ้นงบพลิกบวก

          “คาดทิศทางผลประกอบการจะพลิกบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 เพราะจะมีรายได้ธุรกิจค้าปลีก และให้เช่าพื้นที่เข้ามา ปัจจุบันเฟสแรกที่เราเปิดบริการสถานีน้ำมัน มีผู้เช่าแล้ว 80-90% และมีผู้เช่ารายอื่นเข้ามาเจรจาขอเช่าพื้นที่เกือบเต็มแล้ว” นายพงศ์พจน์ กล่าว

          ส่วนแผนธุรกิจปี 2566 บริษัทจะเดินหน้าขยายพื้นที่ให้เช่าโครงการ U Park Market แบ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าอาคาร Street Food ขนาด 1,990 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยร้านขายอาหาร 86 ล้านบาท และลานโล่งสำหรับกางเต็นท์ขายสินค้า ขนาด 7,010 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยร้านอาหาร 26 ร้าน และร้านค้า 132 ร้าน คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 2/2566

          ด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจะเปิดโครงการ U Park Home มูลค่าโครงการกว่า 172.22 ล้านบาท แบ่งเป็นจำนวน 4 เฟส และ 3. โครงการคอนโด River Condo มีมูลค่าโครงการ 321.72 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการขออนุญาตการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในไตรมาสที่ 4 /2566 และเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีถัดไป

          จ่อโอนกรรมสิทธิ์

          บริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ หรือ Backlog อยู่ที่ราว 29 ล้านบาท จะเริ่มทยอยส่งมอบได้ภายในไตรมาสที่ 1/2566 และมีจำนวนบ้านพร้อมขายอีก 65 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทยังพร้อมขยายพื้นที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม ซึ่งมองในจังหวัดขอนแก่น และพื้นที่ข้างเคียงอีกด้วย

          นายพงศ์พจน์ กล่าวต่อว่า บริษัทคาดรายได้รวมปี 2566 จะอยู่ที่ 200 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจค้าปลีก และพื้นที่ใช้เช่า จำนวน 100 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 100 ล้านบาท บริษัทมองธุรกิจการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคามจะค่อยๆ ฟื้นตัว แต่อาจจะไม่หวือหวามากนัก เพราะกำลังซื้อจากผู้บริโภคใช้จ่ายไปในปี 2565 ค่อนข้างเยอะ ทำให้เม็ดเงินจับจ่ายใช้สอยในปี 2566 อาจจะไม่ได้เห็นเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับปีก่อน อนึ่ง 9 เดือนแรกปี 2565 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 26.03 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 10.81 ล้านบาท

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย