สงครามราคา อานิสงส์ผู้บริโภค ชี้คอนโดฯถูกลงย้อนหลังไป5ปี
คอลลิเออร์ส ชี้ “สงครามราคา” ผู้บริโภครับอานิสงส์ ระบุผู้ประกอบการลดราคาย้อนหลังเท่ากับ 5 ปีก่อนหวังระบายสต๊อก สร้างกระแสเงินสด ขณะที่นวัตกรรมการก่อสร้างเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สงครามราคาของตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเกิดจากผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องการระบายสต๊อก และปิดโครงการที่มียูนิตเหลือขายไม่มากประมาณ 10-20% เคลียร์สต๊อก ที่กระจายอยู่รอบกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย จึงลดราคาลงมาจำนวนมากตั้งแต่ 30-60% ประกอบกับการทำแคมเปญอยู่ฟรี ไม่ต้องผ่อนนาน 1-2 ปี ทำให้กระตุ้นกำลังซื้อได้เป็นอย่างดี สามารถปิดการขายได้ 100%
เมื่อการลดราคาและแคมเปญอยู่ฟรีได้ผล จึงได้ขยายการทำแคมเปญไปในโครงการที่ขายได้น้อยหรือขายช้า ในทำเลมีการแข่งขันสูง หรือมีสต๊อกในทำเลนั้นๆ จำนวนมากและก็ได้ผลเช่นกัน เมื่อมีคู่แข่งลดราคาแย่งส่วนแบ่งตลาดผู้ประกอบการรายอื่นๆ จำต้องลดราคาตามเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด และสร้างยอดขาย จนในที่สุดเกิดสงครามราคาขึ้น
สำหรับการลดราคาขายของผู้ประกอบการในปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นราคาย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา และยังสามารถขายได้แม้ในภาวะเกิดการแพร่ระบาดของโรค สะท้อนถึงการปั่นราคาสูงเกินจริงของผู้ประกอบการตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งราคาขายคอนโดมิเนียมและราคาที่ดินที่ปรับสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี ขณะที่รายได้ของผู้บริโภคปรับขึ้นตามไม่ทันจนซื้อไม่ไหว ทำให้มีสินค้าเหลือขายในตลาดจำนวนมาก แต่ผู้ประกอบการกลับไม่ได้ชะลอการลงทุน เนื่องจากมีตลาดต่างชาติเข้ามาช่วยซื้อ โดยเฉพาะชาวจีน เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี อีกทั้งยังเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้มีสต๊อกเหลือขายในตลาดจำนวนมาก
การลดราคาขายจนกลายมาเป็นราคาย้อนหลังเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้กำลังซื้อคนไทยเอื้อมถึง อีกทั้งยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยังสามารถขายสินค้าได้ ผู้บริโภคที่ซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันถือว่าได้ประโยชน์อย่างมาก เพราะผ่านมา 5 ปีการพัฒนาโครงการของผู้ประกอบการในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างมาก ทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยีการก่อสร้าง การอยู่อาศัย ถือว่าก้าวหน้าไปมาก วัสดุ อุปกรณ์ที่นำมาใช้ การตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ถือดีกว่าเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมามาก ในขณะที่ราคาย้อนหลังไปเกือบ 5 ปี
“ที่ผ่านมามีหลายโครงการที่ผู้ประกอบการตั้งราคาขายผิดหรือสูงจนเกินกว่าที่กำลังซื้อในทำเลนั้นๆ จะสามารถซื้อได้ ทำให้ขายไม่ออกหรือขายได้น้อยจนต้อง รีโปรดักต์ใหม่ทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจไป ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการหลายรายมีความกังวลอย่างมากต่อการตั้งราคาขายโครงการใหม่ จนต้องปรึกษาโบรกเกอร์ว่าราคาที่ ตั้งขายในทำเลนั้นเหมาะสมแล้วหรือยัง อีกทั้งยังศึกษากำลังซื้อในตลาดอย่างละเอียด” นายภัทรชัย กล่าว
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา