NVDลุ้นผลงานครึ่งหลังฟื้นตัว โชว์แบ็กล็อก 1.8 พันล้าน-รุกขายผ่านออนไลน์
NVD ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังฟื้นตัว ล่าสุดตุนแบ็กล็อก 1,807 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์รุกขายผ่านออนไลน์ พร้อมเลื่อนเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่า 4,500 ล้านบาท ส่วนผลงานครึ่งปีแรกวูบ หลังรายได้ไตรมาส 1/63 ลดลง 61% เหตุไวรัสโควิด-19 กระทบ
นายจิรเดช นุตสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ NVD เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะฟื้นตัวจากช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะมีกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ห้องเพนท์เฮ้าส์ในโครงการ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ (Banyan Tree Residences Riverside Bangkok) และยังมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ เดอะ โมสต์ อิสรภาพ (The MOST Itsaraphap) ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 1,807 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้ภายในปี 2563 ขณะเดียวกันบริษัทยังมีสินค้าเหลือขาย (Inventory) ในมือรวมมูลค่า 2,741 ล้านบาท จากโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานรวมจำนวน 17 โครงการ เป็นโครงการแนวราบจำนวน 15 โครงการ และเป็นโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการ ซึ่งจะรองรับการขายอย่างต่อเนื่อง
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกน่าจะชะลอตัว เพราะยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2563 ที่มีรายได้รวมลดลง 61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน” นายจิรเดช กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2563 และช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 บริษัทได้ปรับเปลี่ยนการขาย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เป็น “New Normal” โดยจะเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับการทำโปรโมชั่นให้ส่วนลดที่มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อผ่านช่องทางดังกล่าว
ส่วนแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2563 บริษัทได้เลื่อนการเปิดตัว 3 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท เพื่อดูสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบด้วย 1.โครงการ Nirvana Collection Krungthepkreetha จำนวน 50 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ราคาขายอยู่ที่ 40-80 ล้านบาท 2.โครงการ Nirvana Absolute Bangna มูลค่า 600 ล้านบาท จำนวน 31 ยูนิต ราคาขายอยู่ที่ 15-25 ล้านบาท และ 3.โครงการ Nirvana Element Bangna จำนวน 156 ยูนิต มูลค่า 1,900 ล้านบาท ราคาขายอยู่ที่ 8-20 ล้านบาท
นายจิรเดช กล่าวอีกว่า ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 บริษัทมีที่ดินเปล่า (Land bank) ในมือรวมประมาณ 4 แปลง จำนวน 274 ไร่ เป็นที่ดินบนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เป็นหลัก ซึ่งหลังการพัฒนาโครงการคาดมูลค่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 35,000 ล้านบาท ทั้งนี้การลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90% เฉพาะปี 2563 จะช่วยให้กระแสเงินสดดีขึ้น แต่ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
