LHแลนด์แบงก์เต็มมือชูบ้านแนวราบยืนหนึ่ง

04 มิ.ย. 2563 700 0

          LH ตุนที่ดินรองรับการ เปิดโครงการใหม่ได้ถึง 4 ปี ชี้ลดภาษีที่ดิน 90% ช่วยลดต้นทุน เผยยอดขาย Q2/2563 แนวโน้มดี โครงการแนวราบยืนหนึ่งเล็งเปิดเพิ่มอีก 12 โครงการ มูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปีนี้ พร้อมอัดโปรโมชัน ปั๊มยอดขายเพิ่ม

          นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90% มองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นมาตรการที่จะมาบรรเทาความเดือดร้อนของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนบริษัทปรับตัวลดลง ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในมือสามารถรองรับการเปิดโครงการใหม่ได้ถึง 4 ปี

          ขณะที่ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยโครงการแนวราบยังมียอดขายในระดับที่ดี แต่ในส่วนของคอนโดมิเนียมอาจจะมียอดขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ทั้งปีคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะลดลงเกิน 10% เช่นเดียวกับซัพพลาย ทำให้คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเริ่มกลับสู่สมดุลมากขึ้น และคาดว่าปีหน้าแนวโน้มตลาดก็น่าจะกลับมาดีขึ้น

          อัดโปรโมชั่นปั๊มยอดขาย

          ขณะที่ยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 2/2563 ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยทั้งปียังคงเป้ายอดขายปีนี้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท และคงเป้ารายได้ที่ 3.33 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 9 พันล้านบาท ทั้งนี้บริษัทยังเดินหน้าในการเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง โดยมีแผนจะเปิดโครงการแนวราบอีก 12 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท ในช่วงไตรมาส 2/2563 นี้ 1 โครงการ, ไตรมาส 3/2563 จำนวน 9 โครงการ และไตรมาส 4/2563 อีก  2 โครงการ ไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่

          อย่างไรก็ดีบริษัทจะเดินหน้าในจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มช่องทางการขายโครงการผ่านระบบออนไลน์ด้วย เพื่อเป็นการปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาวะในปัจจุบัน ส่วนแผนการขายโครงการอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกา จำนวน 1 แห่ง จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 4 แห่ง ยังอยู่ในแผนของบริษัทตามนโยบายของบริษัทที่จะเข้าลงทุนและขายสินทรัพย์ออกไปเมื่อครบระยะเวลาลงทุนประมาณ 5-6 ปี ทำให้คาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษช่วงปลายปี

          เคาะเป้าซื้อ 10.60 บาท

          บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุถึง LH ว่าบริษัทยังคงเป้ารายได้และยอดจองสำหรับปีนี้ โดยในเดือนเมษายน LH เห็นการดำเนินงานของกลุ่ม Low-Rise ดีขึ้น แต่ถูกกดดันจากกลุ่มคอนโด ทำให้ยอดโดยรวมคงที่ จากช่วงเดียวกันปีก่อน และยอดจองเริ่มกลับมาปกติในเดือนพฤษภาคม ทำให้บริษัทยังคงเป้าหมายในการเติบโต และเริ่มการขายโครงการใหม่ๆ ผ่านระบบออนไลน์

          แนะนำให้ “ซื้อ” LH โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 10.60 บาท อิง SOTP เนื่องจาก 1.การดำเนินงานของ Low-Rise ที่ดีขึ้น 2. มูลค่าของเงินลงทุนใน HMPRO ที่เพิ่มขึ้น 3.การขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT แต่มีความเสี่ยงเชิงลบจาก 1. ผลการดำเนินงานที่แย่กว่าคาด 2. ยอดขายคอนโดที่ลดลง และ 3. ปริมาณสต๊อกที่เพิ่มขึ้น

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย