เซ็นทรัล ฉีกแนวมอลล์ชายหาด ผุดวงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ3พันล.
กลุ่มเซ็นทรัลอสังหาค้าปลีกแนวใหม่ ทุ่ม 3 พันล.เปิดโครงการ วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ (Wongamat Beach Village) ยูนีค เนเชอรัล บีช ปาร์ค แอนด์ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ รูปแบบใหม่แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศ ไทย ริมหาดวงศ์อมาตย์ เมืองพัทยา เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยและ ต่างชาติกำลังซื้อสูง คาดมีผู้มาใช้บริการรวมมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี
นายพงศ์ ศกุนตนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า ทางกลุ่มเซ็นทรัลมีแผนวางไว้ 5-10 ปีที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ๆเฉลี่ย 1 โครงการต่อ 2 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ดินและศักยภาพของทำเล รวมทั้งพาร์ตเนอร์ต่างๆ ที่ทำธุรกิจร่วมกันด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายโครงการที่ดำเนินการบริหาร เช่น ไชน่าเวิลด์บางลำพู บ้านสีลม จิวเวลรี่ เทรดเซ็นเตอร์ วงศ์สว่างที่เพิ่งรีโนเวต เป็นมาร์เก็ตเพลซวงศ์สว่างปอร์โตที่ภูเก็ต จริงใจที่เซ็นทรัลเชียงใหม่ โดยมีรายได้จากการบริหารประมาณ 3,000 ล้านทาทต่อปี ล่าสุดที่ประกาศเปิดตัวลงทุนคือ โครงการ วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ ที่พัทยา
สำหรับโครงการ วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ ตั้งอยู่ที่พัทยาเหนือ ห่างจากมอเตอร์เวย์ 4 กม. เข้าได้สะดวกสบายทั้งจาก ซอยนาเกลือ 16 และ ซอยนาเกลือ 18 พื้นที่รวม 55 ไร้ จะใช้งบลงทุนรวม 3,000 ล้านบาท ทั้งโครงการ แบ่งเป็น 3 เฟส โดยเฟส1 กับ 2 จะเปิดปลายปีนี้ พื้นที่รวม 13.5 ไร่ จอดรถได้ 150 คัน จะเริ่มลงเสาเข็มช่วงเดือนมิถุนายน 2565 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2565 โครงการจะแล้วเสร็จทั้งหมด 100% ในปี 2566 ส่วนเฟสที่ 3 จะเป็นโครงการใหญ่แต่ต้องรอดูการตอบรับของ 2 เฟสแรกก่อน
กลุ่มลูกค้าของทางโครงการจะแมตซ์กับเทรนด์การท่องเที่ยวปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักจะแบ่งเป็น Tourist และ Local ในสัดส่วนที่เท่าๆกัน โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้า ที่เป็น Family ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ จากการใช้ชีวิต และการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จะแบ่งเป็น ชาวไทย 55% แบ่งเป็นคนในพื้นที่ 30% และคนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ อีก 25% และชาวต่างชาติ 45% แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 30% และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่พัทยาอีกกว่า 15% คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคนต่อปีซึ่งคาดการณ์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวเมืองพัทยาที่อยู่ที่เกือบ 16 ล้านคน ในปี 2562
ทั้งนี้ ตัวเลขอาจะเพิ่มมากขึ้น หากสนามบินอู่ตะเภา และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) แล้วเสร็จช่วง 5 ปีข้างหน้าตามกำหนดการ ซึ่งจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจากทั่วโลกเข้ามาในพัทยามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบการท่องเที่ยว ธุรกิจ ลงทุน รวมถึงพนักงานและลูกจ้างที่เข้ามาทำงาน
“กลุ่มเซ็นทรัล เล็งเห็นถึงการพัฒนาและเติบโตทางโครงสร้างพื้นฐานอย่างรอบด้านและต่อเนื่องของเมืองพัทยาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ทำให้เมืองพัทยาถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทั้งคุณภาพและศักยภาพความพร้อมในหลากหลายด้าน กลุ่มเซ็นทรัล จึงได้จัดทำโครงการ วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ โครงการใหม่ล่าสุด ซึ่งพัทยาติด ท็อปไฟว์ ของจังหวัดที่มีค่า จีดีพีสูงสุดในไทย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพ”
แนวคิดโครงการนี้ออกแบบให้เป็น Unique Natural Beach Park & Lifestyle Mall ริมทะเลที่แรกและที่เดียวของประเทศไทย ผ่านการนำความเรียบง่ายและงดงามของธรรมชาติแบบดั้งเดิมของหาดวงศ์อมาต พัทยา ในอดีตที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ หาดทราย สวนร่มรื่นริมหาดอย่างเป็นเอกลักษณ์ กลับคืนมาสู่ปัจจุบัน จะสร้างไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ให้กับคนทุกเพศทุกวัย และเป็น Central of Life รวมทั้งยังเป็น Living Space ของการพบปะสังสรรค์ ผ่านหลากหลายกิจกรรมเวิร์กชอปงานศิลปะและงานคราฟต์ กิจกรรมกีฬาทางน้ำและบนชายหาดและกิจกรรมความบันเทิงอื่นๆ ในรูปแบบศิลปะ
ภายในโครงการสามารถเก็บต้นไม้เดิมซึ่งมีขนาดใหญ่ได้มากกว่า 200 ต้น และมีพื้นที่สีเขียวมากถึง 3 ใน 4 ของพื้นที่โครงการ ในขณะที่อาคารของโครงการจะมาในรูปแบบชั้นเดียว ลดการใช้คอนกรีตหรือวัสดุสังเคราะห์ เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติในการก่อสร้าง โดยเป็นพื้นที่เขียวมากถึง 75%
นอกจากนี้ โครงการได้จัดสรรพื้นที่ในรูปแบบ Beach Park หรือสวนสาธารณะริมหาด ผ่านหลากหลายร้านพันธมิตรของโครงการ อาทิ ร้านอาหารระดับพรีเมียม ทั้งไทยและนานาชาติ ร้านคาเฟ่ ร้านของที่ระลึก ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์ ซูเปอร์มาร์เกต เป็นต้น สัดส่วนเป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม คาเฟ่ 70% ร้านค้าทั่วไป 30%
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา