รถไฟฟ้าสาย ชมพู-เหลือง เปิดให้นั่งธ.ค.นี้
นับถอยหลังกับข่าวดีของคนกรุงที่จะมีทางเลือกในการเดินทางด้วย “ระบบราง” เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดอีก 2 สายทาง
โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ทดสอบการเดินรถไฟฟ้าโมโนเรลสาย “สีชมพู” จากอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงไปยังสถานีมีนบุรี ซึ่งการทดสอบวิ่งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมยืนยันว่า รถไฟฟ้าสาย “สีชมพู” พร้อมกับรถไฟฟ้าสาย “สีเหลือง” จะสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2566 แน่นอน
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เยี่ยมชมความก้าวหน้าของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ได้มีการหารือถึงปัญหาและอุปสรรคที่พบในการก่อสร้าง โดยเบื้องต้นได้พบปัญหาและอุปสรรคการก่อสร้างในพื้นที่ที่มีสาธารณูปโภคตามแนวเส้นทางก่อสร้าง เช่น บนถนนแจ้งวัฒนะบริเวณหน้าศูนย์ราชการ การล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสาธารณรัฐประชาชนจีนอันส่งผลให้การส่งมอบขบวนรถไฟฟ้าล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย โดยปัจจุบัน รถไฟฟ้าสายสีชมพูได้ส่งมอบรถแล้ว 21 ขบวนจากทั้งหมด 42 ขบวน และสายสีเหลือง ได้ส่งมอบรถแล้ว 26 ขบวน จากทั้งหมด 30 ขบวน
ทั้งนี้ ในส่วนของการก่อสร้างในพื้นที่ที่มีสาธารณูปโภค ได้มอบหมายให้รฟม. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานก่อสร้าง และพิจารณาความเป็นไปได้อื่นๆ เช่น การปรับแบบแปลนก่อสร้างเพื่อหลีกเลี่ยงแนวสาธารณูปโภคดังกล่าว
สำหรับแนวทางการเร่งรัดการก่อสร้าง เพื่อแก้ปัญหาการจราจร โดยจากเดิมตามสัญญา ทั้ง 2 สายจะเปิดให้บริการในปี 2566 ได้เร่งรัดให้มีการคืนพื้นที่ผิวจราจร และเปิดให้บริการเดินรถบางสถานี ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ได้แก่ สายสีชมพู เปิดให้บริการช่วงระหว่างสถานีมีนบุรีถึงสถานีหลักสี่ และสายสีเหลือง ช่วงสถานีสำโรงถึงสถานีพัฒนาการ ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทุกสถานีในเดือนมิถุนายน 2566
นายสรพงศ์ ยังได้เน้นย้ำเรื่องการเชื่อมต่อการเดินทางต่างๆ เช่น การเชื่อมต่อระหว่างสายรถไฟฟ้า ให้เชื่อมต่อระหว่าง Paid to Paid Area และยกเว้นการเก็บค่าแรกเข้า ทางเชื่อมต่อ (Skywalk) ให้มีการรองรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ตลอดจนพิจารณาการเชื่อมต่อกับขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น เช่น เรือโดยสารคลองแสนแสบ และรถโดยสารประจำทาง หากมีความจำเป็นอาจพิจารณาปรับเส้นทางรถโดยสารประจำทาง และมีป้ายรถโดยสารใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้า เพื่อเป็นการขนส่งสาธารณะระบบรอง (Feeder) ให้กับรถไฟฟ้า เป็นต้น พร้อมทั้งได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องจัดทำรายการตรวจสอบ (Checklist) เพื่อตรวจประเมินความพร้อมการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู ตามข้อสั่ง การรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต่อไป
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีระบบขนส่งมวลชนสายรองประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) มีรูปแบบก่อสร้างเป็นโครง สร้างยกระดับตลอดแนวเส้นทาง โดยสายสีชมพู มีระยะทางทั้งสิ้น 34.5 กิโลเมตร มีสถานีรวม 30 สถานี และมีศูนย์ควบคุมการเดินรถและอาคารจอดแล้วจรอยู่ที่สถานีมีนบุรี ปัจจุบันความคืบหน้าก่อสร้างร้อยละ 86.51
ส่วนสายสีเหลือง ระยะทางทั้งสิ้น 30.4 กิโลเมตร มีสถานีรวม 23 สถานี และมีศูนย์ควบคุมการเดินรถและอาคารจอดแล้วจรอยู่ที่สถานีศรีเอี่ยม ปัจจุบันความคืบหน้าก่อสร้างร้อยละ 91.70 ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูเป็นหนึ่งในโครง การรถไฟฟ้าที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง และแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพ มหานครและปริมณฑลอย่างยั่งยืน
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ