เจแอลแอล ชี้อสังหาฯจับจังหวะลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์
ปัจจุบันนักลงทุนและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มให้ความสนใจมองหาโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทดาต้าเซ็นเตอร์มากขึ้น เนื่องจากธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ให้เช่า มีศักยภาพเติบโตสูง ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ ของบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล พบว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล อินเทอร์เน็ต ในทุกสิ่งอย่าง (Internet of Things: IoT) คลาวด์คอมพิวติ้ง ตลอดรวมจนถึงอีคอมเมิร์ซ ทำให้เกิดข้อมูลปริมาณมหาศาลที่ต้องจัดเก็บและบริหารจัดการตามมาด้วยความต้องการสำหรับพื้นที่จัดเก็บเซิร์ฟเวอร์ ระบบคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและเครือข่ายและส่วนประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่หลายบริษัทหรือองค์กรมีการจัดเก็บและบริหารข้อมูลภายในองค์กรของตนเอง มีองค์กรจำนวนมากขึ้นที่เช่าใช้พื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์จากบริษัทผู้ให้บริการ
สำหรับในประเทศไทย บริการดาต้าเซ็นเตอร์ไม่ใช่ธุรกิจใหม่ จากข้อมูลงานวิจัยของเจแอลแอลระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีดาต้าเซ็นเตอร์ให้เช่ารวมกว่า 24 แห่งที่ดำเนินการโดยผู้ให้บริการ อาทิ ซุปเปอร์แนป, เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์, เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ และเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ เป็นต้น
นายทรัพยากร แสนสุขทวีทรัพย์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์เชิงอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ เจแอลแอล กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้รับการติดต่อสอบถามจากนักลงทุนจำนวนมากขึ้น ทั้งในไทยและจากต่างประเทศเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทดาต้าเซ็นเตอร์ อย่างไรก็ดี ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ให้เช่าต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และการพัฒนาโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ก็เช่นกัน ดังนั้น นอกเหนือจากความสนใจในการลงทุนซื้อดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยังมองกลยุทธ์อื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นการร่วมทุนกับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ รวมไปจนถึงโอกาสการเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการของบริษัทผู้ให้บริการ
นอกจากนี้ เจแอลแอลวิเคราะห์ว่า มีความเป็นได้ที่บริษัทผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ จะต้องการเงินลงทุนสำหรับนำมาปรับปรุง-ยกระดับสถานที่ และเทคโนโลยีของตน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ด้วยว่า บริษัทผู้ให้บริการบางรายอาจสนใจที่จะขายอาคารสิ่งปลูกสร้าง เพื่อเช่ากลับจากนักลงทุนที่เข้าซื้อ (sale and lease back)
นายไมเคิล แกลนซี กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล กล่าวว่า “ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มหลักๆ ในประเทศไทย กำลังพบกับความ ท้าทายจากการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างมองหาโอกาสที่จะกระจายพอร์ตการลงทุนให้ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายประเภทมากขึ้น และดาต้าเซ็นเตอร์ให้เช่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ทางเลือกประเภทหนึ่งที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เช่นเดียวกับกระแสที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก”
รายงานจากเจแอลแอลเปิดเผยว่า การลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกมีมูลค่ารวมมากถึง 47,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 34,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2563 ส่วนในเอเชียแปซิฟิก มูลค่าการซื้อขายในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,400 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 30% จากปี 2563 และเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2562
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา