ชีวาทัย แตกไลน์ธุรกิจรีโนเวตบ้านมือสองขายต่อ เผยปี65 ทุ่ม1,200ล.ชอปที่ดินรองรับ6โปรเจกต์ใหม่
“ชีวิทัย” กางแผนปี 65 เปิดตัว 1 โครงการใหม่ย่านลาดพร้าว วางเป้ารายได้ 2,800 ล้านบาท พร้อมทุ่มงบ 1,200 ล้านบาทลุยซื้อที่ดินรอพัฒนาโครงการใหม่ 6 แปลง มูลค่าหลังพัฒนาขาย 5,000 ล้านบาท พร้อมแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ประมูลทรัพย์มือสองรีโนเวตขายต่อวางเป้า 3 ปีรายได้ 400 ล้านบาท
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA กล่าวว่า ในปี 65 นี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวมที่ 2,800 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวจะมาจาก 2 โครงการใหม่ที่จะก่อสร้างเสร็จในปีนี้ และการทยอยรับรู้รายได้โครงการเดิมที่ยังมี Backlog กว่า 1,800 ล้านบาท โดย 2 โครงการที่กำลังก่อสร้าง และคาดว่าจะรับรู้รายได้ตามกำหนดในปีนี้ ได้แก่
1. โครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า มีจำนวน 593 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,587 ล้านบาท เป็นคอนโดสูง 13 ชั้น ตั้งอยู่ติดถนนอรุณอัมรินทร์ ใกล้สะพานพระราม 8 โดยจะทยอยโอนและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2-3 ปี 65
2. โครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส 2) มีจำนวน 380 ยูนิต มูลค่าโครงการ 994 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise พร้อมอยู่ ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่จะเปิดขายในปีนี้ บนทำเลย่านลาดพร้าว โชคชัย 4 คาดว่าจะเปิดขายและทยอยโอนในช่วงไตรมาส 4 ปี 65
นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนเพื่อหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มเติมตามเป้าหมาย 6 โครงการ โดยมคาดว่าจะใช้งบในการซื้อที่ดินรอการพัฒนา 1,200 ล้านบาท โดยที่ดินทั้ง 6 แปลงดังกล่าวจะเริ่มพัฒนาได้ในช่วงปลายปี 65 ต่อเนื่องปี 66 โดยทั้ง 6 โครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าขายรวม 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค 2-3 โครงการ มูลค่า 2,800 ล้านบาท บ้านเดี่ยวแบรนด์ชีวารมย์ 2 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท และทาวน์โฮมแบรนด์ชีวาโฮม 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท
นอกจากธุรกิจเดิมที่พัฒนา บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและคอนโดฯ เพื่ออยู่อาศัยแล้ว บริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงโอกาสตลาดที่อยู่อาศัยมือสองที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยจุดขายที่สำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยมือสองคือ “ทำเล” และ “ขนาด” ที่เข้ามาตอบโจทย์วิถีการดำรงชีวิตแบบนิวนอร์มอล บริษัทฯ จึงเปิดทีมรุกธุรกิจตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง ในนาม “CHEWA RENUE” โดยนำจุดเด่นด้านการตรวจสอบคุณภาพ บริการหลังการขายและเพิ่มแผนการตลาดพร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงตลาดที่อยู่อาศัยมือสองให้มากขึ้น โดยคาดหวังว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายและสร้างกระแสในตลาดที่อยู่อาศัยมือสองได้เป็นอย่างดี ตั้งเป้า 3 ปี มีรายได้เพิ่มขึ้นสำหรับช่องทางนี้ 400 ล้านบาท เป็นการต่อยอดจากรายได้ในธุรกิจหลักอีกทางหนึ่ง
“ชีวาทัย” ยังคงยึดมั่นด้านคุณภาพและบริการหลังการขายจาก “ชีวาแคร์ ” ตั้งเป้าก้าวขึ้นที่ 1 ในใจลูกค้าด้านคุณภาพและบริการ สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาฯ ช่วงรายได้ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังคงเดินหน้ารักษาคุณภาพสินค้าให้ลูกค้าตรวจ Zero Defect ให้ได้มากที่สุด โดยในปี 64 บริษัทได้ผลการดำเนินงานด้านคุณภาพอยู่ในระดับที่ดีมาก มีอัตราส่วนการตรวจรับห้องครั้งแรก (ZERO DEFECT) สูงถึง 90%” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
