NWR ส่องปีเสืองานล้นมือโกยเงินโครงการใหญ่บูม

03 ก.พ. 2565 226 0

           NWR รับทรัพย์งานรถไฟฟ้าสายสีม่วง 6,000 ล้านบาท และเดินหน้าประมูลงานในแผนเพิ่มอีกกว่า 83,500 ล้านบาท หวังได้งาน 10% เติม Backlog ปัจจุบัน 34,000-35,000 ล้านบาท ด้านธุรกิจอสังหาปีนี้ วางงบ 1,850 ล้านบาท ลุยโครงการแนวราบ-คอนโด

          นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์ พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR ผู้ประกอบธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภท และผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง และผลิตภัณฑ์คอนกรีตอื่น รวมทั้งผลิตเหล็กแปรรูป ใช้เป็นวัสดุในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และจำหน่ายให้กับลูกค้าภายนอก เปิดเผยว่า บริษัทได้รับงานจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) วงเงินกว่า 8.2 หมื่นล้านบาท ที่ร่วมกับพันธมิตร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ซึ่งทาง NWR มีสัดส่วนการถือหุ้นราว 40% คิดเป็นมูลค่างานที่รับผิดชอบจำนวน 6,000 ล้านบาท ซึ่งปริมาณงานที่ได้รับเข้ามาใหม่นี้จะเพิ่มเข้ามาใน Backlog เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทในอนาคต

          สำหรับงานอื่นๆ ที่บริษัทอยู่ระหว่างติดตามมาตั้งแต่ในช่วงต้นปี 2565 มูลค่ารวมราว 83,500 ล้านบาท ได้แก่ งานรถไฟฟ้า, งานถนน,งานท่าเรือ, สนามบิน และงานอาคารต่างๆ ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะได้รับงานใน ส่วนนี้ประมาณ 10% โดยคาดว่าน่าจะ เริ่มทยอยประกาศผลในช่วงไตรมาสที่ 2/2565

          ส่วนปัญหาขาดแคลนแรงงาน ปัจจุบันยังสามารถบริหารจัดการได้ และได้ทำเรื่องขออนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติเข้ามา เพื่อรองรับงานใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้

          คงรายได้โต 30%

          ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564 อยู่ที่ 34,000-35,000 ล้านบาท ยังไม่รวมงานใหม่ที่ได้รับเข้ามาในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 2565 ประมาณ 30% โดยมูลค่างานในมือทั้งหมดจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3-4 ปี อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2565 ไว้ที่ประมาณ 30% จากปี 2564 ตามการรับรู้รายได้ของงานในมือ

          ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินการภายในบริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด ในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดโครงการ บ้านเดี่ยวรังสิตคลอง 3 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท คาดจะเปิดขายไตรมาส 2/2565 ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม ASPEN เฟส D สูง 20 ชั้น มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท คาดจะเปิดขายไตรมาส 4/2565 หรือ ไตรมาส 1/2566

          ปัจจุบันมีโครงการรอขายและทยอยโอนจำนวน 247 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ 146 ล้านบาทในไตรมาส 4/2564 ซึ่งหลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายมาตรการ LTV และลดค่าโอน ก็กระตุ้น Sentiment ของลูกค้าที่มีความต้องการซื้อบ้านอยู่แล้วให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันรายได้หลักยังมาจากงานรับเหมาก่อสร้าง 83% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4% ส่วนที่เหลือมาจากบริษัทในเครือ ธุรกิจอาหาร

          โบรกส่องกำไรฟื้น

          บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DBSV ระบุถึง NWR ปี 2565 และ 2566 กำไรสุทธิ จะฟื้นตัวที่ 23 และ 52 ล้านบาท เทียบกับปี 2564 ที่เป็นขาดทุนสุทธิถึง 583 ล้านบาท เนื่องจากมี Backlog ที่สูง จึงปรับสมมติฐานรายได้ให้สูงขึ้นเป็น 13.8 พันล้านบาท หรือมากขึ้น 9% เทียบกับเดิมที่ 12.7 พันล้านบาท

          รวมทั้งเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 6.9% จากเดิม 5.5% แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยจาก Backlog ไม่มากที่ราว 4.8-4.9% แต่อัตรากำไรขั้นต้นในส่วนธุรกิจหลักอื่นๆ สูงกว่าคือ แอดวานซ์ พรีแฟบ ที่ราว 10-15% และอสังหาริมทรัพย์ที่ราว 25% ขณะที่ สัดส่วนรายได้จะมาจากรับเหมามากที่สุดคือ 86% พรีแฟบที่ 9% และอสังหาริมทรัพย์ที่ 5% ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 1.13 บาท

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย