สมรภูมิอสังหาฯ ชิงลูกค้าคริปโทกลุ่มรวยรุ่นใหม่

           นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในไทยนำคริปโทเคอร์เรนซีมาใช้ซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมเพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และอนาคตก้าวสู่การลงทุนดิจิทัลแอสเสท

          “จากเดิมออกหุ้นกู้พันล้าน ต่อไปนำสินทรัพย์มูลค่าพันล้านไปออกเหรียญเพื่อเป็นหลักประกันสร้างความเชื่อถือให้ผู้ซื้อเหรียญ แทนการออกหุ้นกู้หรือกู้เงินจากสถาบันการเงิน เป็นการระดมทุนอีกหนึ่งช่องทางโดยไม่ต้องเข้าตลาดฯ วิธีนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะกระแสเงินลงทุนไปทั่วโลก และปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่ลงทุนด้วยการฝากเงินแล้วเพราะดอกเบี้ยต่ำไม่ถึงบาทต่อปี จึงหาช่องทางลงทุนรูปแบบใหม่ที่ให้ผลตอบแทนดีและเร็ว”

          คริปโทฯ เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรู้ และปรับตัวไปกับเทรนด์นี้อย่างระมัดระวังเพราะผันผวนสูง แต่ต่อไปจะเป็นที่ยอมรับและเสถียรมากขึ้น ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ จึงเข้ามามีส่วนสร้างความน่าเชื่อถือเพราะมีสินทรัพย์ที่จับต้องได้ไม่ว่าจะเป็นอาคารหรือที่ดินเหมือนเป็นหลักประกันในการกู้เงินธนาคารทำให้คนลงทุนมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทน

          จับกำลังซื้อคนรุ่นใหม่-ต่างชาติ

          ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมามีบริษัทอสังหาฯ เกือบ 20 รายที่ประกาศรับคริปโทฯ ในการซื้อบ้าน-คอนโด อาทิ อนันดา แสนสิริ ออริจิ้น ชาญอิสระ แอสเซสไวส์ เอสซี แอสเสท เจ้าพระยามหานคร ไรมอนแลนด์ เมเจอร์ฯ เสนา สิงห์เอสเตท ริชี่เพลซ 2002 เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็น บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ยังไม่นับรวม บริษัทอสังหาฯ นอกตลาดที่ยอมรับการซื้อขายผ่านคริปโทฯ

          นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของภูเก็ต กล่าวว่า กระแสการลงทุนในดิจิทัลแอสเสทไม่ต่างจากการลงทุนที่มีในปัจจุบันเพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบ เป็นดิจิทัล โทเคน ทำให้นักลงทุน มีโอกาสและทางเลือกในสินทรัพย์ ลงทุนที่กว้างและหลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20-30 ปี ที่นิยมลงทุนในดิจิทัลแอสเสท ทำให้มีรายได้จากการลงทุนและ สามารถซื้ออสังหาฯ มูลค่า 200-300 ล้านบาท ได้ไม่ยาก

          “เรามีลูกค้าที่ซื้อบ้านผ่านคริปโทฯ 2 หลัง หลังแรกราคา 12 ล้านบาท หลังที่ 2 มูลค่า 20 ล้านบาท ซึ่งคนรุ่นใหม่ทำงานผ่านช่องทางออนไลน์ โซเชียล มีเดีย เป็นกระแสโลก หยุดหรือฝืนไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็ว ต้องยอมรับการซื้อขาย คริปโทฯ ที่ผ่านตัวกลางแลกเงิน”

          คริปโทฯ ตัวแปรเศรษฐกิจอนาคต

          นายอมรชัย แซ่ฮวง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีไอพี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กลุ่มคนที่เล่นคริปโทฯ เป็นคนรวยยุคใหม่ (New Wealth) ที่มีอำนาจซื้อสินค้าและบริการสูงตลาดและเป็นตัวแปรหลักของเศรษฐกิจในอนาคตที่ต้องจับตามองและให้ความสำคัญ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ ที่มีมูลค่าสูง

          “โดยเฉพาะคนจีน เมื่อธนาคารประชาชนจีน ซึ่งเป็นธนาคารกลางของจีนแบนคริปโทฯ นำเหรียญที่มีอยู่มา ซื้ออสังหาฯ ในเมืองไทย ล่าสุดมีคนจีนมาซื้อพูลวิลล่า มูลค่า 28 ล้านบาทใน โครงการ พูล วิลล่าของ วีไอพี เมอร์คิวรี่ ด้วยคริปโทฯ ผ่านบิทคับ”

          ก่อนหน้านี้ นางสาวกนกอร หลิมกำเหนิด รองหัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวสูง เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปิดดีล การขาย 2 คอนโดมิเนียม ในโครงการ แชมเบอร์ส อ่อนนุช สเตชั่น ใกล้บีทีเอส อ่อนนุช 23 ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท พร้อมปิดดีลห้องใหญ่ที่ทเวนตี้เอท ชิดลม ใจกลางย่านชิดลม ขนาด 1 ห้องนอน เริ่มต้น 11.93 ล้านบาท ด้วยคริปโทฯ

          นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมา แสนสิริมีกลุ่มคนมาซื้อผ่านคริปโทฯ 20-30 ล้านบาท มาวางเป็นเงินมัดจำแต่ถ้าคิดเป็นมูลค่าสินค้าราว 100 ล้านบาท คนที่มาซื้อ10 กว่าราย เป็นจำนวนไม่มาก แต่มีกำลังซื้อ

          “เด็กรุ่นใหม่นิยมเทรดคริปโทฯ แสนสิริในฐานะเจ้าของสินค้าและบริการต้องการอำนวยความสะดวกให้ด้วยการรับโอนเหรียญคริปโทฯ มาให้แสนสิรินำไปขายต่อได้เงินบาทกลับมาทันทีแทนที่เขาจะเทรดเอง แต่หากมีกฎระเบียบออกมาห้ามใช้คริปโทฯ ชำระค่าสินค้าก็ไม่ส่งผลกระทบ อย่างมากเขาก็นำบิทคอยน์ ไปเทรดในตลาดเปลี่ยนเป็นเงินบาทมาซื้อมีค่าเท่ากันแค่ transaction ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง”

          ดิจิทัลแอสเสทดึงคนเข้าถึงการลงทุน

          นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดิจิทัลแอทเสท ถือเป็นเมกะเทรนด์ ที่ผ่านมาออริจิ้นได้เปิดโอกาส นักลงทุนรุ่นใหม่ทั้งสายเทรดและ สายฟาร์มเลือกซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมผ่านบิทคับ รองรับเหรียญคริปโทฯ 3 สกุล ได้แก่ อีเธอเรียม เทเทอร์ และบิทคอยน์

          ช่วงกลางปีนี้บริษัทได้เตรียมออก “P Coin”  โทเคนดิจิทัลพร้อมใช้ (Utility Token) ที่แถมไปกับตัวบ้าน จากเดิมที่มีงบการตลาดสำหรับบ้านราคา 10 ล้านบาทและให้เป็นบัตรกำนัล ซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน และบริการ ของออริจิ้น เสมือนเป็นคูปองดิจิทัลใช้บริการ

          “วันนี้ออริจิ้นไม่ได้ขายบ้าน แต่ขายประสบการณ์การใช้ชีวิตให้กับลูกค้าทุกมิติเป็นการต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในเครือ ในอนาคตเหรียญ P Coin จะลิงค์กับ JFin Coin ของเจ มาร์ท เชื่อมโยงอีโคซิสเท็มออริจิ้นกรุ๊ปกับเจ มาร์ทกรุ๊ป”

          รวมทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาวิธีการระดมทุนในรูปแบบ ของเรียลเอสเตท แบล็คโทเทค คล้ายกับ สิริฮับโทเคน ซึ่งออริจิ้น ทำคอนโดมิเนียมที่ลงทุนขายไปแล้วลงทุนกลับมาให้กับลูกค้า โดยเปลี่ยนจากการขายเป็นยูนิตมาขายเป็นตารางฟุต มีลักษณะคล้ายรีท ที่มีผลตอบแทนจากการลงทุนแบบ Decentralized ทำให้คนเข้าถึง การลงทุนง่ายขึ้นด้วยการลงทุนผ่านโทเคนดิจิทัล

          ผู้ถือจะได้สิทธิร่วมลงทุนในโครงการคล้ายการถือหน่วยลงทุน เช่น สิทธิจากส่วนแบ่งรายได้ หรือผลกำไรจากการลงทุน ตามสัดส่วนโทเคนที่เข้าไปลงทุน

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ