บิ๊กคอร์ป เร่งสปีดลุย ดิจิทัลแอสเสท มุ่งเจาะคนรุ่นใหม่

13 ธ.ค. 2564 598 0

         ธุรกิจยักษ์ใหญ่ตบเท้า ลงสมรภูมิ “คริปโทเคอร์เรนซี-โทเคน ดิจิทัล” รับเมกะเทรนด์โลก “อสังหา-ค้าปลีก” จับขั้วพันธมิตรบูมตลาด เร่งสร้างอีโคซิสเต็ม ต่อยอดทางเลือกใหม่การลงทุนแห่งอนาคต เสริมแกร่งเศรษฐกิจหลังโควิดกรุยทางสู่ “นิวอีโคโนมี”

          วิกฤติโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รอบด้าน โดยเฉพาะเมกะเทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ทั้งสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัล ที่บรรดาผู้ประกอบการ ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก สายการบิน โรงแรม ฯลฯ โดดลงมา ในสมรภูมินี้อย่างคึกคัก

          รอบ 1 เดือนที่ผ่านมามีการประกาศความร่วมมือระหว่าง “พันธมิตรบิ๊กคอร์ป” เช่น เดอะมอลล์ ผนึก “บิทคับ”  อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมกับบิทคับ  รับชำระเงินซื้อขายบ้านคอนโดมิเนียมทุกโครงการด้วยเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับ ออริจิ้น ชาญอิสระ แอสเซสไวส์ เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์

          ขณะที่ สิงห์ เอสเตท จับมือ Genesis Block ในฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระบบนอกตลาด (OTC) เปิดทางให้ต่างชาติ ที่ถือสกุลเงินดิจิทัลซื้อที่อยู่อาศัยในไทยได้ง่ายขึ้น ส่วน MQDC เจ้าพระยามหาคร เอสซี แอทเสท แกรนด์ แอสแสท ใช้แพลตฟอร์มของ ซิปเม็กซ์ Zipmex รับคริปโทฯ

          นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาเสริมแกร่งให้ธุรกิจและสร้างรายได้ ลูกค้าหลักแอสเซทไวส์เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้คริปโทฯ ปัจจุบันลูกค้า คนรุ่นใหม่มีสัดส่วน 30-40% นักลงทุน 20-30% ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักทำดิจิทัลแอสเสท โฟกัสกลุ่มลูกค้าที่มีในมือศักยภาพสูงซื้ออสังหาฯ เพื่อลงทุนในแบบของ “AssetToken”

          “การเข้ามาของ ดิจิทัลแอสเสท ถูกจังหวะเวลาในการเพิ่มโอกาสในการขายอสังหาฯ เพราะอนาคตการทำธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ หากไม่ปรับตัวจะถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดหรือล้มหายตายจากไปในที่สุด”

          ชี้เมกะเทรนด์โลกไม่ปรับตัวตกขบวน

          นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วิกฤติโควิดทำให้ธุรกิจอสังหาฯ ต้องปรับตัว รอบด้าน เปิดโอกาสนักลงทุนรุ่นใหม่ทั้งสายเทรดและสายฟาร์มเลือกซื้อบ้านและคอนโดมิเนียม ผ่าน “บิทคับ” รองรับเหรียญคริปโทฯ 3 สกุลได้แก่ อีเธอเรียม เทเทอร์ และบิตคอยน์

          “Digital Tokens เป็นเมกะเทรนด์โลก ใครไม่ปรับตัวจะตกขบวน ขณะที่อสังหาฯ เป็นสินค้ามูลค่าสูงต้องใช้เงินจำนวนมาก การชำระด้วย คริปโทฯ จึงสะดวก รวดเร็ว กดโอนได้ทันที ไม่ถึง 20 นาทีได้รับเงินแล้ว ยิ่งถ้าเป็นการซื้อขายกับต่างประเทศ ทำให้ง่ายขึ้น”

          ในปี 2565 ออริจิ้น มีแผนออกเหรียญ “P Coin”  เพื่อใช้ในแพลตฟอร์มของออริจิ้นเสมือนเป็นคูปองดิจิทัล อนาคต P Coin จะลิงก์กับ J Fin Coin ของเจ มาร์ท เชื่อมโยงอีโคซิสเต็ม ออริจิ้นกรุ๊ป กับเจ มาร์ท กรุ๊ป ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาวิธีระดมทุนในรูปแบบของ “เรียลเอสเตท แบล็คโทเทน” ให้คนตัวเล็กเข้าถึงการลงทุนง่ายขึ้นด้วยการลงทุนผ่านโทเคนดิจิทัล ผู้ถือจะได้รับสิทธิเข้าร่วมลงทุนในกิจกรรมต่างๆ คล้ายถือหน่วยลงทุน เช่น สิทธิจากส่วนแบ่งรายได้ หรือผลกำไรจากการลงทุน ตามสัดส่วนโทเคนที่เข้าไปลงทุน

          คริปโทฯ แรงส่งอสังหาปี 65

          นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ร่วมกับ Zipmex แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดรับ 5 สกุลเงินดิจิทัลซื้อบ้านและ คอนโดมิเนียมทุกแห่ง ตั้งแต่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา รองรับการขยายฐานลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศ

          เอสซี แอสเสท วางโรดแมพปี 2565 จะมีการออก “SC Morning Coin” ซึ่งเป็น utility token เพื่อประโยชน์พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และนักลงทุน กว่า 4 แสนคน ภายในอีโคซิสเต็ม เอสซี แอสเสท ต่อยอดจาก SC token ที่ใช้ภายในองค์กร ตามด้วยการทำ ICO (Initial Coin Offering) ซึ่งเป็น security token เพื่อระดมทุนใน 3 ปี ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ที่สร้าง recurring income มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท และมองหาโอกาสการทำ NFT (Non-Fungible Tokens) อีกด้วย

          “การที่ผู้ใช้มีความคุ้นชิน สะดวก เชื่อมั่นมากขึ้นในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ จะทำให้คริปโทฯ ได้รับความนิยมมากขึ้น จำนวนผู้ใช้คริปโทฯ  ที่มากขึ้น และดีมานด์อสังหาฯ ที่สูงขึ้นจากการเปิดประเทศ จะเป็นแรงส่งสำคัญขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ ปี 2565”

          นายณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมาร์เก็ต แคป ของคริปโทฯ มีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ เติบโตจากปี 2562 ถึง 10 เท่า ขณะที่ผู้ใช้คริปโทฯ ต้นปี 2564 มีมากกว่า 100 ล้านคน เพิ่มจาก 35 ล้านคนภายใน 2 ปี และมีการคาดการณ์จากกลุ่ม SFA (Singapore FinTech Association) ว่าจะเติบโตจาก 100 ล้าน เป็น 300 ล้านคนในปี 2564

          “XSpring” เรือธงโลกการเงินดิจิทัลแสนสิริ

          นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากจุดแข็ง ของแสนสิริที่มีการพัฒนาโครงการมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท และจำนวนฐานลูกค้าในมือกว่า 1 แสนราย ทำให้มองเห็นถึงโอกาสจากการเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล สามารถใช้คริปโทฯ ซื้อบ้าน และคอนโดมิเนียมของแสนสิริได้ทุกโครงการ รวมถึงยังใช้จ่ายค่าส่วนกลางได้ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวของการเติบโตในการสร้างรายได้เพิ่ม โดยเปิดรับ คริปโทฯ 4 สกุล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum (ETH), USDC และ USDT ผ่านทาง Bitazza

          แสนสิริ เข้าลงทุนใน “XSpring” หรือ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่เชื่อมโลกการเงินปัจจุบันกับโลกการเงินดิจิทัล แสนสิริเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท

          นางสาวอัญชลี เลิศสุวรรณรัชต์ ผู้อำนวยการ อาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มการซื้ออสังหาฯ โดยใช้ ดิจิทัล แอสเสท มีมากขึ้นในอนาคต เบื้องต้นโครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” ร่วมกับ ซิปเม็กซ์ ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เป็นช่องทางซื้อห้องชุด ชำระผ่าน คริปโทฯ รับเหรียญหลัก 6 สกุลทั้งสายเทรด และสายฟาร์มได้แก่ บิทคอยน์, อีเธอเรียม, เทเทอร์, ริปเปิล, ไลท์คอยน์ และ ZMT (Zipmex Token)

          ยักษ์ค้าปลีกลุยใช้จ่ายเงินดิจิทัล

          นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ผู้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า วันแพลตฟอร์ม"ONESIAMSuperApp” ซูเปอร์แอพพลิเคชันจะเป็นเครื่องมือสำคัญก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่ มุ่งขยายบริการ “สินทรัพย์ดิจิทัล” และดิจิทัลยูทิลิตี้ พร้อมเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนและใช้คะแนนสะสมจากพันธมิตร เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนและการใช้ VIZ COIN ใช้ซื้อสินค้าได้คุ้มค่าและสะดวก

          ก่อนหน้านี้ร่วมกับซิปเม็กซ์ แลกซื้อคอลเลคชันเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน Zipmex Token (ZMT) และในปี 2565 จะร่วมกับ X Spring และ เจ เวนเจอร์ส สร้างประสบการณ์ใหม่ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร

          นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ได้ร่วมทุนกับ “บิทคับ” จัดตั้ง บริษัท บิทคับ เอ็ม จำกัด ในสัดส่วน 50:50 ที่จะร่วมกันบริหารดิจิทัลแอสเสท และการใช้จ่ายผ่านสกุลเงินดิจิทัลของบิทคับ รวมทั้ง “บิทคับ เอ็ม โซเชียล” ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ศูนย์กลางการเทรดและแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล  และนำเข้าสู่โลกของ เมตาเวิร์สในอนาคต

          ขณะที่ กลุ่มเซ็นทรัล  ภายใต้บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  อยู่ระหว่างพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล “C-Coin” ทดลองใช้กับพนักงานในเครือกว่า 1,000 ราย ที่จะได้รับ “C-Coin"เป็นโบนัสพิเศษ ใช้ซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าภายในเครือเซ็นทรัล ซึ่ง C-Coin แซนด์บ็อกซ์นี้ อยู่ระหว่างกระบวนการเรียนรู้ พัฒนาประสิทธิภาพสูงสุด จะทยอยขยายใช้ครอบคลุมพนักงานกลุ่มเซ็นทรัลทั่วโลก

          สายการบินเตรียมรับคริปโทฯ

          นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กล่าวว่า กลุ่มแอร์เอเชียมุ่งผลักดัน airasia super app แอพพลิเคชั่นไลฟ์สไตล์ที่เข้ามาทำทุกอย่างได้ ตั้งแต่บริการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก แพ็คเกจทัวร์ รถ สั่งอาหาร รวมถึงบริการการจองทุกอย่าง ในอนาคตจะต่อยอดเรื่องการเงินการธนาคาร  รวมถึงคริปโทฯ คาดว่าภายใน 1 เดือนนี้จะสามารถใช้ได้  “ถ้าผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยไม่เปลี่ยนตัวเองให้เป็นสวรรค์ของผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) เราอาจจะช้าไป ทั้งที่เราสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นยูนิคอร์นของการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งตรงกับยุทธศาสตร์ของกลุ่มแอร์เอเชีย”

          รายงานข่าวระบุว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กำลังประสานกับบิทคับ เพื่อรับสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งแต่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นไป นำร่องที่สำนักงานขายบัตรโดยสาร อาคารสำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ก่อนทยอยสู่สำนักงานขายอื่นๆ  รวมถึงช่องทางออนไลน์

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย