CHEWA เกาะกระแสดิจิทัลคริปโทจ่ายค่าบ้าน-คอนโด
CHEWA รุกแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โครงการบ้าน-คอนโด และค่าส่วนกลาง รับชำระเป็นคริปโทแทนเงินสด พร้อมส่องทิศทางอสังหาโค้งท้ายสดใส ปลดล็อกประเทศหนุนกำลังซื้อโชว์ยอดรอโอนเต็มหน้าตัก 1.75 พันล้านบาท จ่อบุ๊กโค้งท้าย 440 ล้านบาท
นายธนิศร นิติสาโรภาส รองกรรมการผู้จัดการ ดูแลสายงานการเงินและบัญชี บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า บริษัทจับมือ Satang Pro แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรับชำระโครงการ และส่วนกลางของบริษัทด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโท โดยสามารถนำมาใช้ชำระแทนเงินสด ได้ 3 สกุลเงิน ได้แก่ BTC, ETH และ USDT ทั้งนี้บริษัทมองการรับชำระเงินด้วยคริปโทเป็นกระแสและอยู่ในเทรนด์กำลังมาแรง ดังนั้นบริษัทจึงมองหาช่องทางการชำระเงินให้ครอบคลุมต่อการบริการ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าสมัยใหม่
กอดแบ็กล็อกแน่น
ขณะที่ทิศทางอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสสุดท้าย หรือไตรมาส 4/2564 ยังเป็นทิศทางที่ดี โดยบริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ หรือ Backlog อยู่ที่ 1.75 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ไตรมาสสุดท้ายนี้ราว 440 ล้านบาท ส่วนอีก 1.3 พันล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้ ในปีถัดไป
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายมูลค่า 1.46 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการ คอนโดมิเนียม 4 โครงการ และโครงการแนวราบ 7 โครงการ รวมถึงยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ มูลค่า 2.58 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการ ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว - โชคชัย 4 เฟส 2, ชีวาทัย ปิ่นเกล้า และมีโครงการร่วมทุนอีกจำนวน 3 โครงการมูลค่า 400 ล้านบาท
โดยปัจจัยที่เป็นแรงหนุนให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์จากภาครัฐ การปรับระยะเวลาเคอร์ฟิว พร้อมผ่อนคลาย 10 กิจการที่เริ่มกลับมาดำเนินได้เกือบปกติ อีกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันลดต่ำลง และกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึงในพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั่วประเทศ
กระตุ้นยอดซื้อ
นอกจากนี้บริษัทจะจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคให้มากขึ้น ขณะเดียวกันมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และการจดจำนองบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะเป็นอีกแรงหนุนหนึ่งที่ทำให้ทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวต่อเนื่องจากที่ผ่านมา
ส่วนทิศทางรายได้รวมปีนี้ บริษัทจะพยายามทำให้ให้ได้ใกล้เคียงเป้า โดย 9 เดือนแรกบริษัททำรายได้ได้แล้ว 1.6 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 54.46 ล้านบาท ขณะที่แผนธุรกิจและการเติบโตปี 2565 บริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผน และเตรียมประกาศข่าวในช่วงต้นปี 2565 เบื้องต้นบริษัทอยู่ระหว่างมองหาที่ดิน เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2565 จำนวน 3 โครงการ
อีกทั้งบริษัทคาดแนวโน้มธุรกิจและผลประกอบการปี 2565 จะเติบโตดีต่อเนื่องจากปี 2564 เพราะบริษัทมีโครงการที่จะสร้างเสร็จ และโอนกรรมสิทธิ์อีก 2 โครงการประมาณไตรมาส 2 และไตรมาส 3/2565
เน้นด้านคุณภาพ
บริษัทมุ่งเน้นด้านคุณภาพและบริการ วางเป้า 2 ปี ขึ้นที่ 1 ในใจลูกค้าด้านคุณภาพและบริการ สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายได้น้อยกว่า 5 พันล้านบาท พร้อมกันนี้ยังคงเดินหน้ารักษาคุณภาพสินค้าให้ลูกค้าตรวจ Zero Defect ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อโครงการกับชีวาทัย ได้สิ่งที่ดีและมีคุณภาพสูงสุด ตั้งแต่ก่อสร้าง บริการก่อนการขายตลอดจนถึงบริการหลังการขาย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น