พลัสฯ ชี้ตลาดอสังหาฟื้นช้า
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ คาดแอลทีวีช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ยกแผง แต่อาจใช้เวลาอีก 1-2 ปีหลังโควิดคลี่คลายจึงจะฟื้นกลับสู่ภาวะปกติ พร้อมเปิดผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งปีแรก พบคอนโดฯ กลุ่มราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท สุดฮอตอัตราการขายโต 67.5%
นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า การปลดล็อกเกณฑ์สัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน หรือ แอลทีวี ล่าสุด ที่ผ่อนคลายมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมาเป็น 100% ในทุกระดับราคาโดยมีผลจนถึงสิ้นปี 2565 จะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ บวกกับการเปิดประเทศเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะค่อยๆ ฟื้นตัว แต่อาจใช้เวลาอีก 1-2 ปีหลังโควิดคลี่คลาย ตลาดจึงจะฟื้นกลับสู่ภาวะปกติ หากรัฐบาลมีมาตรการยาแรงกระตุ้นเพิ่มเติมอีก
“การปลดล็อกมาตรการแอลทีวีส่งผลดีต่อที่อยู่อาศัยทั้งมือหนึ่งและมือสอง ช่วยกระตุ้นทั้งคนที่ต้องการอยู่จริง และกลุ่มนักลงทุนตลาดคอนโดฯ เนื่องจากมีราคาถูกหากซื้อมาเก็บไว้เป็นสินทรัพย์จนตลาดกลับมาดีในอนาคตราคาจะเพิ่มขึ้น และสำหรับนักลงทุนปล่อยเช่า ราคาเช่าในทำเลดีๆ ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ได้ผลตอบแทนในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น และเชื่อว่ามาตรการนี้จะไม่เพิ่มความต้องการของนักเก็งกำไรจากสถานการณ์ตลาดที่ชะลอตัว”
ส่วนผลสำรวจที่อยู่อาศัยครึ่งปีแรก 2564 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า คอนโดมิเนียมมีอุปทานเปิดใหม่ 10,018 ยูนิต ลดลง 38% จากครึ่งปีหลัง 2563 จากจำนวนโครงการที่เปิดใหม่ ระดับราคา 40,000-90,000 บาทต่อตารางเมตร ยังคงมีสัดส่วนมากที่สุดที่ 44% และพบว่ามีอุปทานใหม่ที่ระดับราคาต่ำกว่า 40,000 บาทต่อตารางเมตรและระดับราคาสูงกว่า 150,000 บาทต่อตารางเมตร เปิดตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีหลัง 2563 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการเน้นจับกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น ในส่วนของการตอบรับพบว่ามีอัตราการขายเฉลี่ยจากโครงการที่สำรวจอยู่ที่ 67% จากจำนวนยูนิตทั้งหมด 180,261 ยูนิต
หากจำแนกตามกลุ่มหลักเกณฑ์แอลทีวี เดิมที่ประกาศใช้ในช่วง ดังกล่าว คือกลุ่มราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวน 166,315 ยูนิต มีอัตราขาย 68% ส่วนกลุ่มราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปมีจำนวนโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 13,946 ยูนิต และมีอัตราขาย 60.5% บ้านเดี่ยว มีอุปทานบ้านเดี่ยวเปิดใหม่ทั้งหมด 2,561 ยูนิต ลดลง 46% จากช่วงครึ่งปีหลัง 2563 โดยสัดส่วนระดับราคาที่เปิดตัวมากที่สุดคือ 5-8 ล้านบาท โดยเป็นกลุ่มหลักที่ผู้ประกอบการเน้นเปิดตัวในรอบสำรวจนี้ ต่างจากปีก่อนที่เน้นเปิดโครงการระดับบน ในขณะที่อัตราการขายเฉลี่ยจากโครงการที่ทำการสำรวจอยู่ที่ 57% จากจำนวนทั้งหมด 44,693 ยูนิต โดยหากจำแนกตามกลุ่มหลักเกณฑ์ แอลทีวีเดิมที่ประกาศใช้ในช่วงดังกล่าว กลุ่มราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท มีจำนวนโครงการที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 33,846 ยูนิต มีอัตราขาย 56.7% ส่วนกลุ่มราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวนโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 10,847 ยูนิต และมีอัตราขาย 58.1%
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด