MJD รับดีมานด์ฟื้นรัฐคลายล็อกเมืองเดินหน้าดีลธุรกิจ
MJD เผยปลดล็อกนัก ท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าไทยไม่ต้องกักตัว ดีเดย์ 1 พฤศจิกายน 2564 หนุนธุรกิจโรงแรม-อสังหาสดใส พร้อมปักธงปี 2565 ผลงานดีกว่าปี 2564 รับดีมานด์ฟื้น เล็งดีลธุรกิจสุขภาพเทคโนโลยี เปิดช่องรับทรัพย์เพิ่ม คาดชัดเจนกลางปี 2565
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD กล่าวว่า จากประเด็นที่ภาครัฐแถลงการณ์เปิดประเทศ โดยให้นักท่องเที่ยว ชาวต่างประเทศสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว (สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว) เป็นผลดีต่อธุรกิจโรงแรมของบริษัท และจะสนับสนุนให้มีผู้เข้าใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันโรงแรมในเครือของบริษัทตั้งอยู่ในจังหวัดที่ใกล้กับกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้ ได้แก่ มาราเกซ หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา และเซ็นทรา บาย เซ็นทารา มาริส รีสอร์ท จอมเทียน
อีกทั้งสนับสนุนให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเพิ่มเติม เพราะเดิมบริษัทมีลูกค้าบางส่วนเป็นการซื้อจากชาวต่างประเทศ ซึ่งมาตรการของภาครัฐนั้นจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในกลุ่มดังกล่าวอีกทางหนึ่ง ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ MJD มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายมากกว่า 95% และส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจโรงแรมและสำนักงานให้เช่า ตลอดจนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในช่วงที่เหลือปีนี้ทาง MJD มีแผนเปิดโครงแนวราบในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มเติม จำนวน 1 โครงการ คิดเป็นมูลค่าราว 2-3 พันล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายและรายรับเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนนี้บริษัทได้มีการจัดหาที่ดินรองรับการพัฒนาในส่วนดังกล่าวไว้แล้วและจะเป็นอีกแรงสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ส่วนผลประกอบการปี 2565 คาดว่าจะโตต่อเนื่องจากปี 2564 จากกำลังซื้อในส่วนต่างๆ จะฟื้นตัว เพราะได้แรงหนุนจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ
นอกจากนี้บริษัทหาโอกาสเข้าลงทุนเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพ (Healthsape) และเทคโนโลยี (Techsape) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดในส่วนต่างๆ คาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนช่วงกลางปี 2565 หวังกลายเป็นอีกปัจจัยช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคต
โดยตั้งเป้าหมายการปรับตัวระยะ 5 ปี (2564-2568) ในหลายมิติ ประกอบด้วย 1.ปรับพอร์ตสินค้าโครงการคอนโดมิเนียมเป็น 75% จากปัจจุบันอยู่ที่ 95% และโครงการแนวราบเป็น 25% จากปัจจุบัน 5% และ 2.กระจายพอร์ตธุรกิจ (Business Diversification) ทยอยกระจายรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Business) และธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ (Non-Real Estate Business) โดยสัดส่วนดังกล่าวจะเน้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับภูมิทัศน์การใช้ชีวิต (Lifescape) ของผู้บริโภค
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น