คิกออฟ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สู้โควิด
นายกฯเปิด “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ต้อนรับนักท่องเที่ยว คาด 3 เดือน ต่างชาติเข้ามา 1 แสนคน สร้างรายได้ 8.9 พันล้าน “พิพัฒน์” ยันทันดีเดย์ 1 ก.ค.หลังกระทรวงการต่างประเทศ ปลดล็อกการออก COE ด้านเอกชนขานรับ ชี้สร้างความหวังคนไทย ดึงนักลงทุน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดภูเก็ต วันนี้ (1 ก.ค.) เพื่อตรวจเยี่ยมระบบการคัดกรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ต เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเศรษฐกิจท่องเที่ยวตามโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีจะประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการมาตรการโครงการดังกล่าวร่วมกับส่วนราชการและ ภาคเอกชน ณ โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อำเภอเมืองภูเก็ต
พร้อมเปิดโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” (HUG THAIS HUG PHUKET) ภายใต้โครงการ “ฮักไทย” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต และตรวจเยี่ยม ความพร้อมการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ณ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยนายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมการคัดกรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตทางอากาศ และต้อนรับนักท่องเที่ยว ต่างประเทศที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเย็นวันเดียวกัน
นายอนุชา กล่าวว่า การการลงพื้นที่ครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และบริการที่เกี่ยวเนื่อง ให้สามารถกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว เพิ่มโอกาสการจ้างงาน ต่อยอด สินค้าบริการ ในธุรกิจกิจการท่องเที่ยวในระดับต่างๆ รวมถึงการลงทุนด้วย ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่ไปกับ New Normal หรือการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เพื่อให้การท่องเที่ยว ของไทยกลับมาเป็นกลไกสำคัญในการ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป
ดันรายได้เฉียดหมื่นล้านบาท
“รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประมาณการณ์นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 100,000 คน ในไตรมาส 3 ปีนี้ (ก.ค.-ก.ย.2564) ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้อยู่ที่ 8.9 พันล้านบาท”
ทั้งนี้ ตลอดเดือน ก.ค.2564 มียอดจอง Booking ของผู้โดยสารที่จะเข้ามาภูเก็ต 11,894 คน ข้อมูลจาก 6 สายการบิน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้า 8,281 คน ขาออก 3,613 คน คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินทั้งหมดประมาณ 426 เที่ยวบิน เฉลี่ยที่ 13 เที่ยวบินต่อวัน
นอกจากนี้ ศบค.ได้กำหนดแผนการชะลอหรือยกเลิกโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กรณีสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง หากมีจำนวน ผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์ ในลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล ที่มีการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ หรือมีการระบาดในวงกว้างที่หาสาเหตุหรือความเชื่อมโยงไม่ได้
รวมทั้งความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย กรณีมีผู้ติดเชื้อครองเตียงโรงพยาบาลตั้งแต่ 80% ของศักยภาพของจังหวัดที่มีการพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์แบบวงกว้าง แบบควบคุมไม่ได้ด้วย
“พิพัฒน์“ยันกต.ปลดล็อก COE
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วันนี้ (1 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ เดินทาง มาต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว กลุ่มแรกที่ได้ใบอนุญาตการเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry : COE) จากกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แล้ว จาก 4 สายการบิน
“กระทรวงการต่างประเทศปลดล็อก ปัญหาอุปสรรคของการออก COE จากเดิม ที่มีปัญหาว่า หากไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็จะออก COE ไม่ได้ กระทั่งมีประกาศ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. ทั้งนี้นักท่องเที่ยวร่วมโครงการจะเที่ยวในภูเก็ตแบบไม่ต้องกักตัวอย่างน้อย 14 คืนแน่นอน ก่อนเดินทางออกไปเที่ยวพื้นที่อื่น
ทั้งนี้ วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2563 และต่อมาขยายเวลาบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปเป็นครั้งที่ 12 จนถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้ โดยรัฐบาลเห็นความจำเป็นในการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเพื่อรองรับ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการ
ในการนี้รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในการกำหนดมาตรการรองรับและบูรณาการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างเป็นระบบ และให้การขับเคลื่อนทาง เศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินการ ควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
ททท.เตรียมความพร้อมรับคิกออฟ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การเตรียมพร้อม รับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากเที่ยวบินปฐมฤกษ์ดำเนินการสมบูรณ์แล้ว เชื่อว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่ร่วมโครงการยังเดินทางเข้ามาปกติ
ส่วนความกังวลการออก COE ทาง ททท.ประสานไปแล้ว ทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศเร่งออกเป็นการด่วน ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ให้ทันเปิดโครงการจากปกติการขอ COE ต้องใช้เวลา 3-5 วัน
“หากออกไม่ทันจริงๆ ก็เลื่อนการเดินทาง ไป 1-2 วันได้ ทำให้ ททท.ไม่ค่อยเห็นยอดยกเลิกอาจมีเลื่อนบ้าง เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาเที่ยวภูเก็ตอยู่แล้ว”
วันแรกบินเข้าแซนด์บ็อกซ์300คน
ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุดวานนี้ (30 มิ.ย.) ททท.รับรายงานว่ามี COE ที่ได้รับอนุมัติแล้ว (รายเที่ยวบิน) ที่เข้าภูเก็ตวันนี้ (1 ก.ค.) 4 สายการบิน ได้แก่ 1.เอทิฮัด (อะบูดาบี-ภูเก็ต) 37 คน 2.กาตาร์ แอร์เวย์ส (โดฮา-ภูเก็ต) 116 คน 3.แอล อัล อิสราเอล แอร์ไลน์ (เทเลวีฟ-ภูเก็ต) 101 คน 4.สิงคโปร์ แอร์ไลน์ (สิงคโปร์-ภูเก็ต) 46 คนรวม 300 คน
ส่วนยอดจอง (บุ๊กกิ้ง) โรงแรมในภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 1-15 ก.ค.นี้ มี 24,972 คืน (รูมไนท์) เพิ่มขึ้นจากข้อมูล ณ วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่มี 1,101 บุ๊กกิ้ง จำนวน 13,116 รูมไนท์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พำนักเฉลี่ย 11.9 คืน
กังวลไม่ได้ COE ต้องกักตัวใน ALQ
ขณะเดียวกันมีความเคลื่อนไหวในกลุ่มไลน์ “เสียงสะท้อนจากเกาะภูเก็ต” ที่ประกอบด้วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตแสดงความกังวลว่า เนื่องจากราชกิจจานุเบกษาเพิ่งประกาศเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ยื่นขอ COE แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่สามารถดำเนินการได้นั้น หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาวันนี้ได้ COE แล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับเข้าร่วมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก็ต้องเข้ากักตัว 14 วันในโรงแรมที่ผ่านการประเมินเป็นสถานกักกันทางเลือก (Alternative Local Quarantine : ALQ)
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่านักท่องเที่ยวที่จองตั๋วโดยสารเครื่องบินไม่สามารถดำเนินการเพื่อยื่นขอ COE ได้ทัน จำเป็นต้องทยอยยกเลิกตั๋วเดินทางเอกชนรับเสี่ยงแต่ต้องทำ
นายอุปถัมภ์ นิติสุขเจริญ นายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (อีเอ็มเอ) กล่าวว่า การเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะมีเที่ยวบินทยอยเข้ามาภูเก็ต ยอมรับว่าเป็นเรื่องเสี่ยง แต่ประเทศต้องทดลองนำร่องเพราะเวลานี้ไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบสายพันธุ์ใหม่เข้ามาเรื่อยๆ อย่างล่าสุดสายพันธุ์เดลต้าที่อาจกระจายอย่างรวดเร็วใน 2 เดือนนี้
ทั้งนี่รัฐต้องบริหารจัดการให้ดี ให้ผู้คนที่เดินทางเข้ามาอยู่ภายในเกาะภูเก็ตเท่านั้น เพื่อสร้างความปลอดภัยด้านสุขอนามัยโดยรวม
นางเกศมณี เลิศกิจจา นายกสมาคม ผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย กล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือการบริหารจัดการคนให้อยู่ในพื้นที่ภูเก็ตเท่านั้น เพราะต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยว ที่ยอมเสียค่าใช้จ่ายสูง มีความต้องการเยือนพื้นที่อื่นๆด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการทดลองโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นจุดเริ่มต้น ที่ดีในการเปิดประเทศ
ดันเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง-ดึงนักลงทุน
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ดี.พูลส์ จำกัด กล่าวว่า มีความคาดหวังว่าเมื่อมีการ กรองนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตให้อยู่ 14 คืนแล้วไปเที่ยวไทยได้ทุกจังหวัด จะเป็นการสร้างกระแสความตื่นตัวด้านการท่องเที่ยวให้กลับมา ก่อให้เกิด รายได้ในกลุ่มของผู้ประกอบการท่องเที่ยวเช่น โรงแรม ร้านอาหาร ผู้ประกอบการขนส่งรถยนต์ เรือ สถานบันเทิง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงรุก หากจังหวัดอื่นๆ รวมถึงกรุงเทพฯ ปริมณฑลและพื้นที่ที่มีการจัดการควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีมากอีก 30 วันตามที่ปรากฎ สถานการณ์ในครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก
นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์เป็นเรื่องของการสร้าง ความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และเป็นการช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มองเห็นว่าเริ่มมีทางออกแล้วหรือทางสว่างแล้ว มีโอกาสที่เข้ามาลงทุนอสังหาฯในภูเก็ตและหากภูเก็ตเริ่มเปิดได้ต่อไปก็จะมีการเปิด จังหวัดอื่นๆ ตามมา โดยเริ่มจากธุรกิจท่องเที่ยวก่อน แต่ถ้ารอไปเปิดหลังจากนี้พร้อมกัน ทีเดียวอาจจะเป็นปัญหาได้
“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เหมือนเป็นโมเดลทดลองเพื่อนำร่องการเปิดประเทศต่อไป โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายในภาพรวม หาก ไม่ประสบความสำเร็จก็ปิดภูเก็ตไปซึ่งถือเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์กับทุกส่วน เพราะ ถือเป็นโครงการนำร่อง”
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ