RML ส่องอสังหาฯครึ่งหลังฟื้น เล็งเปิด 3 โครงการ มูลค่ารวม 2 หมื่นล้าน
ไรมอนแลนด์ ยันรายได้ปีนี้ตามนัด 2,700 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกแน่น 5,700 ล้านบาท เล็งเปิดตัว 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ส่องตลาดอสังหาฯ ครึ่งหลังฟื้นตัว หลังกระจายฉีดวัคซีน-เปิดประเทศรับต่างชาติ
นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด และการขาย บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมปี 2564 ไว้ที่ 2,700 ล้านบาท แม้ในช่วงไตรมาส 1/2564 บริษัทจะมีรายได้รวม 1,599.10 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 50% ของรายได้รวม อย่างไรก็ตามเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,173.27 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 5,700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมีสินค้าพร้อมขาย (Inventory) มูลค่ารวมในมือประมาณ 8,000 ล้านบาท รองรับการขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทจะเน้นสร้างยอดขายจาก 2 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการ เอสเทล พร้อมพงษ์ (The Estelle Phrom Phong) และ 2.โครงการ โครงเทตต์ สาธร (TAIT SATHORN 12)
นอกจากนี้ ในช่วงที่เหลือของปี 2564 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 20,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการลักชัวรี่วิลล่า ริมทะเล (Oceanfront Luxury Villas) ในจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย มูลค่าโครงการประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท, 2.โครงการในซอยสุขุมวิท 38 เป็นโครงการระดับไฮเอนด์ ซึ่งร่วมทุนกับพันธมิตร “โตเกียว ทาเทโมโนะ” และ 3.โครงการในย่านสุขุมวิท-พร้อมพงษ์
สำหรับทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 จะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ภายหลังที่เริ่มมีการทยอยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงกระตุ้น ดึงบรรยากาศและความมั่นใจในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนลูกค้าชาวต่างชาติให้กลับมา
นายมนาเทศ กล่าวอีกว่า ด้วยศักยภาพของตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ ทำเลใจกลางเมือง ที่มีจำนวนจำกัด แต่ยังคงมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากผู้ที่กำลังมองหาที่พักอาศัย หรือซื้อไว้เพื่อลงทุน ทำให้คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบันมากนัก และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อระดับสูงมากขึ้นหลังจากนี้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดประเทศในวันที่ 1 ก.ค.นี้ จังหวัดภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีความเสี่ยงต่ำ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว อีกทั้งจะมีการเปิดประเทศในอีก 120 วันจากนี้ จะช่วยหนุนลูกค้าต่างชาติเข้ามา
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
