NOBLEรุกคอนโดแบรนด์ใหม่ NUE เล็งเปิดปีนี้ 6 โครงการ ประเดิมที่บางนา 650 ล้าน

15 มี.ค. 2564 375 0

         “โนเบิลฯ” รุกเปิดคอนโดมิเนียมแบรนด์ “NUE” 6 โครงการในปีนี้ หวังเพิ่มสัดส่วนยอดขายเป็น 50% ของเป้ายอดขายรวมทั้งปีที่ตั้งไว้ 1.6 หมื่นล้านบาท ล่าสุดเปิดตัว “นิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา” มูลค่า 650 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 60-70% ภายใน 3 สัปดาห์แรก พร้อมเตรียมเปิดตัว “นิว ดอนเมือง” มูลค่า 3,000 ล้านบาทต่อเนื่องในไตรมาส 2/64

          นายอรัฐ เศวตะทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการ ภายใต้แบรนด์ “NUE” ระดับราคาตั้งแต่ 1.2-5 ล้านบาทต่อยูนิต จำนวน 6 โครงการ  ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการเปิดตัวโครงการประมาณ 50% ของพอร์ตรวม หลังมีความต้องการและกำลังซื้อในกลุ่มดังกล่าวมีอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายจะสร้างสัดส่วนยอดขาย (Presale) จากแบรนด์ดังกล่าวที่ประมาณ 50% ของเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ทั้งปี 2564 ไว้ที่ 16,000 ล้านบาท

          โดยในช่วงไตรมาส 1/2564 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ “NUE” จำนวน 1 โครงการ มูลค่า 650 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 2/2564 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ “NUE” อีกจำนวน 1 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ในทำเลดอนเมือง ซึ่งจะมีทั้งทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ส่วนที่เหลืออีก 4 โครงการ จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง

          ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา บริษัทเปิดขายโครงการ นิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา (NUE NOBLE CENTRE BANGNA) มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท เป็นวันแรก ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ “NUE” โครงการแรกของปี 2564 พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายในช่วง 3 สัปดาห์แรกไว้ที่ระดับ 60-70% หลังวันแรกสร้างยอดขายได้แล้วประมาณ 16% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เบื้องต้นคาดจะได้ EIA ภายใน 60 วันจากนี้ และจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 2/2564 และจะสร้างเสร็จในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2565

          สำหรับโครงการ นิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 7 ชั้น เป็นอาคารพักอาศัยจำนวน 2 อาคาร จำนวน 204 ยูนิต และมีอีก 1 อาคารสำหรับ Facilities โครงการยังคงจัดเต็มในเรื่อง Facilities ตามสไตล์ของแบรนด์ NUE บนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ 95 ตารางวา ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ติดกับห้างเซ็นทรัลบางนา เพียง 10 ก้าวเท่านั้น

          นายอรัฐ กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าว มีห้องพักอาศัยให้เลือก 4 ประเภท ได้แก่ แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.30 และ 24.80 ตารางเมตร มีความพิเศษ คือ ห้องออกแบบให้ลูกค้าได้เลือกตามลักษณะการใช้งานในส่วนห้องครัว โดยแบ่งเป็นห้องครัวนอกติดริมระเบียง และแบบห้องครัวในที่จะพบตั้งแต่ประตูทางเข้าห้อง, แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.30 และ 29.80 ตารางเมตร ด้วยจุดเด่นที่มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ และพื้นที่ Walk-in Closet, แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.80 และ 37.50 ตารางเมตร จุดเด่นคือ เป็นห้องหน้ากว้างถึง 7.6 เมตร มาพร้อมห้องครัวแบบ U-Shape พร้อมเชื่อมต่อไปยังในส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ทำให้เกิดความลงตัวมากยิ่งขึ้น

          นอกจากนี้ ยังมีแบบ 2 ห้องนอน พลัส ขนาด 52 ตารางเมตร เป็นห้องที่อยู่ด้านมุมของอาคาร ซึ่งจะสามารถมองเห็นวิวได้ทั้ง 2 ฝั่ง มาพร้อมพื้นที่ครัวขนาดใหญ่แบบ U-Shape ที่เชื่อมต่อไปยังส่วนรับประทานอาหารขนาดใหญ่ถึง 6 ที่นั่ง และห้องนั่งเล่นที่จะสามารถชมวิวจากภายนอกได้ อย่างเต็มตาด้วยกระจกเต็มบาน พร้อมทั้งยังมีห้องน้ำรองรับการใช้งานถึง 2 ห้อง

          ด้านมุมมองของการลงทุน บริษัทมั่นใจโครงการนี้จะสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้ให้กับลูกค้าที่เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ และนักลงทุนได้อย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันนี้มีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Yield) ของคอนโดในย่านนี้เฉลี่ยสูงถึง 5-7% ต่อปี และคาดการณ์ว่าหากสภาพเศรษฐกิจพลิกฟื้นดีขึ้นในอนาคต Yield จะปรับสูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย