SPALI ชูนิวไฮยั่งยืน พิชิตตจว.-ต่างแดน
“ประทีป ตั้งมติธรรม” ไขปริศนา SPALI ปีเดียวเฉียด 700 ล้านบาท ชี้เส้นทางบริษัท โตยั่งยืน กระจายพอร์ตต่างจังหวัด ต่างประเทศ สำเร็จ มีต้นทุนต่ำ กดสูตรขยายต่อ พัฒนาโครงการใน 5 จังหวัดใหม่ วางเป้ารายได้ปีนี้โตนิวไฮอีกอย่างน้อย 10% กลาง Q1/2566 ลงทุนออสเตรเลียเพิ่ม วางเป้าขยายอินโดนีเซีย เวียดนาม เติบโตสูง ส่วนต้นทุนที่ขึ้นจัดการได้
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ ไม่น้อยกว่า 10% จากปี 2565 ที่มีความมั่นใจว่ารายได้รวมจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 29,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวมแล้วที่ระดับ 25,454.54 ล้านบาท (ทั้งนี้บริษัทสามารถทำยอดขายนิวไฮได้ในปี 2564 ที่ระดับ 29,647 ล้านบาท)
โดยมองภาพรวมอุตสาหกรรมในปี 2566 จะมีการขยายตัวที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน และเชื่อว่า เศรษฐกิจในประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งหลังจาก ที่มีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งการตอบรับค่อนข้างดี อีกทั้งจากการที่จีนเปิดประเทศทำให้การเดินทางเข้า-ออกสะดวก จะช่วยหนุนเศรษฐกิจและกำลังซื้อให้กับประชาชนในประเทศได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงวางแผนเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าจะไม่น้อยกว่าปี 2565
ขยายตจว.-ต่างแดน
ทั้งนี้ในปี 2566 จะเห็นการเปิดโครงการใหม่โดยเฉพาะแนวราบในจังหวัดใหม่ๆ อาทิ จังหวัดลำปาง ลำพูน จันทบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี เพิ่มเติม จากเดิมที่มีการขยายไปแล้ว 25 จังหวัดทั่วประเทศ เพราะมองว่าเป็นเมืองที่มีความน่าสนใจ แม้ว่าเป็นเมืองรองแต่ก็มีกำลังซื้อและมีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินรองรับโครงการที่จะพัฒนาในปีนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว และคาดว่าจะสามารถทยอยเปิดตัวได้ครบทั้งหมดในปีนี้เช่นเดียวกัน
บริษัทยังคงมีความสนใจที่จะลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และออสเตรเลีย เพราะมองว่าเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมาก มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศที่สูงทุกปี โดยออสเตรเลียบริษัทมีการเข้ามา ร่วมทุนแล้ว 12 โครงการ มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์บริษัทจะมีการเข้าไปศึกษาการ ลงทุนในออสเตรเลีย โครงการที่ 13 และ 14 เพิ่มเติม
เปิดกว้างลงทุน
ขณะเดียวกันบริษัทมองหาโอกาสในการลงทุน
ใหม่ๆ ทั้งในธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นๆ ที่นอกเหนืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็น การกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก สร้างศักยภาพในการเติบโตให้กับรายได้ผ่านช่องทางใหม่เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันบริษัทเปิดกว้างในการศึกษาการลงทุนดังกล่าวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยหากว่ามีความชัดเจนจะให้รายละเอียดอีกครั้ง
”มองว่าในปี 2566 ปัจจัยบวกมีมาก ทั้งเรื่องการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การเลือกตั้ง และเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 3-4% คาดว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและกระจายรายได้ให้กับกลุ่มที่มีรายได้ต่ำได้มากขึ้น ขณะที่ปัจจัยลบทั้งในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เงินเฟ้อ ค่าแรงและราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการก่อสร้างที่ปรับตัวสูง มองว่าปัจจัยเหล่านี้เราสามารถปรับตัวและบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี โดยต้นทุนการเงินเราตอนนี้อยู่ที่ราว 1.6-1.7% ซึ่งยังต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม” ดร.ประทีปกล่าว
เก็บหุ้นต่อเนื่อง
จากข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) พบว่า ในปีที่ผ่านมากลุ่มผู้บริหารและคณะกรรมการของบริษัทต่างเดินหน้าซื้อหุ้น SPALI อย่างต่อเนื่อง เฉพาะ “ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม” ได้เข้าซื้อหุ้นราว 35 ล้านหุ้น มูลค่าเฉียด 700 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า SPALI จะสามารถมียอดโอนปี 2565 ที่ 3.27 หมื่นล้านบาท (เป้าบริษัท 2.9 หมื่นล้านบาท) ส่วนการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมจากอสังหา ในออสเตรเลียที่คาดจะสูงขึ้นจะช่วยทำให้กำไรไตรมาส 4 ยืนระดับสูง ประเมินทั้งปี 2565 กำไรจะทำนิวไฮที่ 7.77 พันล้านบาท คงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 28.60 บาท คาด Div Yield เฉลี่ย 6.5% ต่อปีถือเป็นระดับจูงใจให้กับผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง
Reference: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น