PREB ตั้งเป้าปี 66 ผลงานดี ปั้นแนวราบใหม่โกยเงิน
PREB ลั่นปี 2566 ผลงานทะยานต่อเนื่องจากปี 2565 อานิสงส์ธุรกิจภาคอสังหาหนุน ส่งสัญญาณรับเหมาสดใส ด้านผู้บริหาร “วิโรจน์ เจริญตรา” ประกาศเดินหน้า ปั้นโครงการแนวราบใหม่อีกราว 1.2-1.4 พันล้านบาท อัพฐานโกยเงินเพิ่ม แถม ล่าสุดทริสเรตติ้ง วางใจคงระดับ BBB สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจ
นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยถึงธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ว่าบริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ปี 2566 จำนวน 2 โครงการ ซึ่งกระจายในทำเลต่างๆ อาทิ พุทธมณฑล สาย 3 ฯลฯ โดยมีมูลค่าโครงการ รวมราว 1,200-1,400 ล้านบาท เพื่อสร้างยอดรับรู้รายได้เพิ่มเติม ตลอดจนสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
ปีนี้ผลงานโต
ทั้งนี้ ปัจจุบันธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้นดำเนินการโดย บริษัท พรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทย่อยของ PREB และได้มีการ เปลี่ยนชื่อมาจาก บริษัท อีสแอมอาร์ จำกัด ที่ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างแบรนด์ แบรนด์ “พรีบิลท์” ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการปี 2566 เบื้องต้นคาดน่าจะได้เห็นแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2565 เนื่องจากได้แรงสนับสนุนจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่โครงการที่รอส่งมอบ เป็นจำนวนมาก ประกอบกับจะมีการ เปิดโครงการใหม่ในปีนี้เพิ่มเติม นอกเหนือ จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาทางบริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB ถือเป็น 1 ใน 6 บริษัทผู้รับเหมาที่ได้รับการแต่งตั้งเพื่อพัฒนา โครงการ วัน แบงค็อก ทั้งงานก่อสร้าง ในส่วนของอาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่ อาศัย พื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ บนพื้นที่ 260,000 ตารางเมตร ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 2 ปี ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว
สำหรับโครงการ วัน แบงค็อก ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศ ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์คครบวงจรระดับโลกแห่งใหม่ มีมูลค่าลงทุนมากที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา เพื่อให้เป็นเมืองแห่งความครบครันสำหรับการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งการได้รับงานโปรเจ็กต์ One Bangkok ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพในงานก่อสร้างของบริษัท ซึ่งอยู่ในระดับชั้นแนวหน้าของเมืองไทย จนเป็นที่ไว้วางใจของคู่ค้า
เรตติ้งแกร่ง
ขณะที่ล่าสุดทาง บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ได้รับความน่าเชื่อถือด้วยแนวโน้ม Stable หรือ “คงที่” ใน ระดับ BBB ได้อย่างดี ซึ่งการจัดลำดับ ของทริสเรทติ้ง สะท้อนถึงผลงานที่ยาวนานเป็นที่ยอมรับในงานก่อสร้างโครงการอาคารสูงในหลายภาคธุรกิจ มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียง รวมถึง มีสัดส่วนรายได้ด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น และภาระหนี้ในระดับที่ยอมรับได้ มีสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอ
อนึ่ง ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 4,434.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.12% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 2,973.53 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 326.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110.04% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 155.60 ล้านบาท
โดยสาเหตุการเติบโตดังกล่าวมาจากได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของงานรับเหมาก่อสร้าง งานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และงานขายและผลิตวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย
Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น