ORIพรีเซลปี63ทะลุเป้า2.56หมื่นล. คาดโควิดรอบใหม่ไม่กระทบอสังหาฯปี 64
“ออริจิ้น” โชว์ผลงานปี 63 โกยพรีเซล 2.56 หมื่นล้านบาท ทะลุเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 2.15 หมื่นล้านบาท ชู “Key Success” เพิ่มสัดส่วนบ้านจัดสรร-รักษาระดับการลุยคอนโดฯ-การวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์เจาะดีมานด์ถูกกลุ่ม พร้อมคาดโควิด-19 รอบใหม่ กดดันตลาดระยะสั้น ไม่กระทบภาพรวมธุรกิจอสังหาฯปี 64 เดินหน้าวางแผนและปรับตัวต่อเนื่อง
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัททำยอดขาย (Presale) รวมอยู่ที่ประมาณ 25,600 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของทั้งปีที่วางไว้ 21,500 ล้านบาท เติบโตสวนทางกับสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในปีที่ผ่านมา โดย Key Success มาจากการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งช่วงก่อนและหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ปี 2563 เป็นปีที่ทำตลาดที่อยู่อาศัยกลุ่ม Ready to move ได้ค่อนข้างโดดเด่น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 65% ของยอดขายทั้งหมด
นอกจากนี้ ด้วยจุดเข็งของบริษัทในการวิเคราะห์ตลาด ตลอดจนการเลือกทำเลและเซ็กเมนต์ที่มีศักยภาพ ทำให้บริษัทสามารถค้นหาลูกค้าในกลุ่มเรียลดีมานด์เจอ พัฒนาสินค้าคุณภาพที่มีทั้ง Living Solution และ Reaching Solution ตอบโจทย์ความต้องการ และสร้างยอดขายในกลุ่มโครงการเปิดตัวใหม่ได้ดีอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับตัวอย่างต่อเนื่องหลายอย่างตั้งแต่ช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น การปรับสัดส่วนธุรกิจมาพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด เพิ่มขึ้น การเปิดตัวแบรนด์บ้านจัดสรรเซ็กเมนต์ใหม่ ๆ และเซ็กเมนต์ 25 ล้านบาทขึ้นไปต่อยูนิต อย่างเบลกราเวีย (Belgravia) ส่งผลให้มียอดขายบ้านจัดสรรคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของยอดขายทั้งหมดในปี 2563 ซึ่งเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทยังรักษาระดับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในปริมาณใกล้เคียงเดิม แต่ใช้หลากหลายกลยุทธ์เพื่อให้เข้าถึงตลาดได้กว้างขึ้น เช่น การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “โซโห แบงค็อก” (SOHO Bangkok) โครงการแรกบนทำเลรัชดาฯ เพื่อขยายฐานตลาดไฮเอนด์เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะเพิ่งเปิดตัวในช่วงปลายไตรมาส 4/2563 แต่ก็ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดขายแล้วกว่า 60% อีกทั้ง ยังมีการจับมือพันธมิตรเกาหลีใต้ พัฒนาโครงการไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท พระราม 4 (KnightsBridge Space Sukhumvit Rama 4) ซึ่งสร้างยอดขายไปแล้วถึง 98% ด้านแบรนด์ดิ ออริจิ้น (The Origin) ก็ใช้กลยุทธ์ใหม่ ๆ เช่น Origin Next Normal ลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการที่ไม่กระทบต่อตัวสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น
ส่วนโครงการกลุ่ม Ready to move ก็ประสบความสำเร็จจากโครงการ Everyone can sell โครงการที่เปิดโอกาสให้พนักงานเครือ ORI กว่า 1,200 คน กลายเป็น Micro-Influencer สร้างยอดขายได้ด้วยการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตัวเอง โดยโครงการดังกล่าวสร้างยอดขายในปี 2563 ได้ประมาณ 10% ของยอดขายทั้งปี
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ปี 2563 ถือเป็นปีที่ภาคเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์มีการปรับฐานครั้งใหญ่จากปัจจัยที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน และน่าจะเป็นจุดพักฐานที่ต่ำที่สุดในรอบหลายปี ขณะที่ปี 2564 นั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ อาจเข้ามามีส่วนกดดันตลาดในระยะสั้น ช่วงต้น-กลางไตรมาสแรก แม้ระยะยาวอาจจะต้องจับตากันอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทั้งปีของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และภาพรวมทั้งปี 2564 จะยังเติบโตได้มากกว่าปี 2563
Reference: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น