MQDC ไขสูตรปั้น 'เวอร์ติคัลลิฟวิ่ง-Mytopia' ชู'นวัตกรรม-ฟังก์ชัน'เจาะเน็กซ์เจน
สรัญญา จันทร์สว่าง
กรุงเทพธุรกิจ
รูปแบบชีวิตวิถีใหม่ของคนไทยมีความหลากหลายของไลฟ์สไตล์และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา โดยเฉพาะกลุ่ม คนรุ่นใหม่ ท้าทายบรรดาดีเวลลอปเปอร์! จะตีโจทย์ วางโซลูชั่นส์ สร้างโปรดักท์ ขับเคลื่อนกลยุทธ์อย่างไร? ให้ตรงใจลูกค้าเป้าหมาย นำสู่โอกาสและยอดขายในที่สุด
“วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความสุขและคุณภาพชีวิต การมี เซฟโซน โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบของครอบครัว ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการใช้เงิน ไม่ยึดติดกับรูปแบบของการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินต่างๆ และสิ่งที่มีค่าที่สุด ที่ให้ความสำคัญคือเวลา”
ผลวิจัยพฤติกรรมการใช้ชีวิตของ คนรุ่นใหม่(Next Generation Living) นี้ อัษฎา แก้วเขียว ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ได้นำมา ถอดรหัส! ออกมาเป็นองค์ประกอบต่างๆ อาทิ การออกแบบที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้เวลาได้อย่างมีคุณภาพ การผสานธรรมชาติ การจัดอาหารเช้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมถึงโลเคชันที่ตั้งที่สะดวกและครบครัน
ทั้งหมดนี้ ถูกใส่เข้าไปในคอนโดมิเนียมแบรนด์วิสซ์ดอม (Whizdom) โครงการที่พักอาศัยใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ เมกะโปรเจกต์เมืองมูลค่ากว่า 1.25 แสนล้านบาท ที่ออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี และ มีความสุข บนที่ดิน 398 ไร่ บริเวณถนน บางนาตราด กม.7 ทำเลศักยภาพแห่งกรุงเทพฯ ตะวันออก เชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาค ตะวันออก (อีอีซี) หนึ่งในยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแห่งอนาคต ล่าสุดได้เปิดขาย Whizdom The Forestias : Mytopia อย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้ นำเสนอมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตแบบ “Vertical Living” ภายใต้คอนเซปต์ “Live it all” ตอบโจทย์ทั้ง คนโสด คู่รักที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก ครอบครัวยุคใหม่ ที่มีลูกเล็ก และคนรักสัตว์เลี้ยง ที่กำลังมาแรง! ซึ่ง “Mytopia” มีฟีดแบ็คจากตลาดอย่างดี โดยอาคารที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ ทำยอดขายมากกว่า 70%
มาตรฐานใหม่ของที่อยู่อาศัยแบบ Vertical Living นั้นได้ดึงจุดดี-จุดเด่นของ “บ้าน” และ “คอนโดมิเนียม” มาหลอมรวมกัน ทำให้การอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน! สิ่งสำคัญคือการผสาน “นวัตกรรมการดีไซน์” ตอบสนองทุก “ฟังก์ชั่น”ของการใช้ชีวิต! ที่ผ่านกระบวนการคิดแบบ Live it all ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบได้ครบจบในที่เดียว อีกทั้งสามารถใช้ชีวิตที่กลมกลืนใกล้ชิดธรรมชาติเป็นเมกะเทรนด์แห่งการใช้ชีวิตในโลกอนาคตที่ทุกคนโหยหาธรรมชาติมากขึ้น
“Whizdom The Forestias มุ่งเป็น ผู้สร้างสรรค์และพัฒนาอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) สำหรับ Next Generation Living ผ่านการผสานนวัตกรรมเพื่อการ อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หลากหลายไลฟ์สไตล์ และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของคนรุ่นใหม่”
Whizdom The Forestias ประกอบด้วย 3 อาคาร ได้แก่ Destinia ตอบโจทย์ครอบครัว ยุคใหม่ที่มีลูกเล็ก Mytopia รองรับคนโสด หรือคู่รักที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก และ Petopia เน้นคนรักสัตว์เลี้ยง ซึ่งดีไซน์ทุกมิติ ให้คนที่รักและชื่นชอบสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกับ สัตว์เลี้ยงแสนรับได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย
สำหรับ “Mytopia” เป็นคอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้น ตั้งใกล้ชิดผืนป่าใหญ่ 30 ไร่ หัวใจของ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” โดยตัวอาคารหันหน้าเข้าหาผืนป่า เปิดรับทิวทัศน์และ อากาศบริสุทธ์อย่างเต็มที่ เมื่อมองจากชั้นสูงได้วิวยอดไม้ที่ลดหลั่นอุดมสมบูรณ์ หรือหาก อยู่ชั้นไม่สูงมากจะได้ความรู้สึกกลมกลืนราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เป็นความโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะของ Whizdom The Forestias
“Mytopia” รวม 360 ยูนิต รูปแบบ 1-3 ห้องนอน ห้องดูเพล็กซ์ เพ้นเฮ้าส์ และฟอเรสต์ ดูเพล็กซ์ เพ้นเฮ้าส์ ขนาด 34-190 ตร.ม. ราคา 5.7 -32.7 ล้านบาท ไฮไลต์คือห้อง Loft เพดานสูง 5.4 เมตร สัมผัสวิวป่าเต็มที่ และทำให้การตกแต่งสไตล์ลอฟต์โดดเด่นยิ่งขึ้น
“อีกความโดดเด่นของ Whizdom The Forestias คือความสูงจากพื้นดินของตัวอาคารที่เอื้อให้มองเห็นพื้นที่ทั้งหมดของผืนป่า สร้างประสบการณ์พื้นที่สีเขียวตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่โครงการ และด้วยโครงสร้างอาคารที่ถูกยกให้อยู่เหนือฐานของโพเดียม ทำให้มองดูเหมือนลอยอยู่บนยอดไม้” โดยชั้นบนของโพเดียมเป็นสระว่ายน้ำ ขนาดใหญ่พาดระหว่าง 2 อาคาร มีพื้นที่สระว่ายน้ำและเครื่องเล่นสำหรับเด็ก พื้นที่พักผ่อน สวนกลางแจ้ง ยิมในร่ม พูลเลาจน์ พื้นที่ในอาคารสำหรับเด็ก fa"ade อาคารใช้โครงเหล็กแบบเมกาเฟรมสูงกว่า 3 เท่า ให้ความรู้สึกไฮเอนด์และช่วยป้องกันรังสีจากแสงแดดภายนอกเข้าสู่ภายใน
อาณาจักร “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ประกอบด้วยที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ พื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ พื้นที่กิจกรรมไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของครอบครัว ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและวัฒนธรรม Family Center ตลาด และป่าขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่ พร้อมทางเดินยกระดับทอดยาวทะลุผืนป่า 1.6 กิโลเมตร
ส่วนโครงการที่พักอาศัยใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ มีทั้งบ้านแบรนด์ “ซิกส์เซนส์” บ้านแบรนด์ “มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า” คอนโดมิเนียมแบรนด์ “มัลเบอร์รี โกรฟ”ที่พักอาศัยแบรนด์ “ดิ แอสเพน ทรี”พร้อมสกายวิลล่า สำหรับผู้สูงอายุ มาพร้อมการบริหารจัดการแบบพิเศษเพื่อการดูแลตลอดชีวิต และคอนโดมิเนียมแบรนด์ “วิสซ์ดอม”
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ