LH ปั๊มรายได้ปีนี้ 3.3 หมื่นล้าน บุกหนักเปิดเพิ่ม 15 โครงการ มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล.
“แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” เผยแผนปี 65 ปั๊มรายได้ 33,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าโกยยอดขาย 31,000 ล้านบาท เตรียมเปิดใหม่ 15 โครงการ มูลค่ารวม 29,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากปี 64 เล็งขายอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกา
นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานคณะกรรมการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการไว้ที่ 33,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการทยอยส่งมอบโครงการที่มีในมืออย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีโครงการที่ยกไปดำเนินการต่อในปี 2565 เป็นจำนวน 74 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 53,300 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย (Presale) ในปี 2565 ไว้ที่ 31,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 29,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับการเปิดโครงการใหม่ในปี 2564 ที่เปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 19,680 ล้านบาท ดังนั้นจำนวนโครงการที่ดำเนินการในปี 2565 จะมีทั้งหมดประมาณ 89 โครงการ เป็นมูลค่ากว่า 82,900 ล้านบาท
โดยโครงการที่จะเปิดใหม่ในปี 2565 จะแบ่งเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 12 โครงการ และต่างจังหวัด 3 โครงการ ซึ่งหากแบ่งตามประเภทสินค้า (โครงการที่มีสินค้ามากกว่า 1 ประเภท นับแยกออกตามประเภทสินค้า จึงนับซ้ำโครงการ) ประกอบด้วย โครงการประเภทบ้านเดี่ยว จำนวน 11 โครงการ, โครงการประเภทบ้านแฝด จำนวน 4 โครงการ, โครงการประเภททาวน์เฮาส์ จำนวน 2 โครงการ และโครงการประเภทคอนโดมิเนียม จำนวน 1 โครงการ
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะขายอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกา และยังมีการมองหาโอกาสที่จะลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา ดำเนินการภายใต้ชื่อบริษัท แอลเอชยูเอสเอ (LHUSA) โดยประกอบด้วยโครงการอพาร์ตเมนต์ และโรงแรม จำนวน 4 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 412 ล้านบาท
สำหรับโครงการอพาร์ทเมนต์ จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการ Parc มูลค่าเงินลงทุน 135 ล้านบาท 2.โครงการ Yard มูลค่าเงินลงทุน 127 ล้านบาท และ 3.โครงการ Revere มูลค่าเงินลงทุน 119 ล้านบาท ส่วนโรงแรม ดำเนินการภายใต้ชื่อ SpringHill มูลค่าเงินลงทุน 31 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ทั้งหมดประมาณ 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย งบสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย จำนวน 6,000 ล้านบาท และงบลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า จำนวน 4,000 ล้านบาท โดยในปี 2565 บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้อีกจำนวน 14,000 ล้านบาท และคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) จะอยู่ในระดับที่ลดลงจากสิ้นปี 2564
Reference: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น