CI โอน2โครงการมูลค่า4พันล้าน Q4ปีนี้จ่อเปิด3โครงการมูลค่า3-4พันล.
CI เผยโครงการอสังหาฯ ที่จะสร้างเสร็จในปีนี้ 2 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท คาดจะเริ่มโอนรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/66 ชี้รองรับความต้องการจากลูกค้าต่างชาติที่กำลังกลับมา ขณะที่เตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,000-4,000 ล้านบาท
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เห็นได้จากอัตราการเข้าพักโรงแรมในเครือบริษัทที่เพิ่มขึ้น โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังคงเป็นชาวรัสเซีย เป็นต้น และหวังว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามามากขึ้นด้วย โดยจะเริ่มเห็นตั้งแต่เดือน พฤษภาคมเป็นต้นไป
“นักท่องเที่ยวกลับมา ธุรกิจโรงแรมก็ฟื้นกลับมาด้วย ทำให้เงินสะพัดในระบบ จากการกินอาหาร ใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว โดยในช่วงเดือน เมษายนนี้ คาดว่าเงินที่สะพัดในระบบจากภาคการท่องเที่ยวจะมีผลกับผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ที่ประมาณ 0.3% ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยว เงินสะพัดมากกว่าภาคการส่งออก เพราะโรงแรมกระจายอยู่ทั่ว สร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ส่งออกกระจุกอยู่แต่รายใหญ่” นายสงกรานต์ กล่าว
ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เกิด Over Supply (สินค้าสูงกว่าความต้องการ) ขณะที่กำลังซื้อของประเทศอ่อนแรง แต่ปัจจุบันกำลังซื้อของไทยเริ่มกลับมาแล้ว จากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา ซึ่งความต้องการของลูกค้าต่างชาติก็กลับมาด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้บริษัทคาดหวังความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกค้าต่างชาติจะเข้ามาหนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 20% ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มการกลับมาที่ดี
ทั้งนี้กำลังซื้อของลูกค้าต่างชาติเป็นส่วนสำคัญในการประคองตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้กลับมา และช่วยให้ความต้องการภายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย โดยปัจจุบันเริ่มเห็นการกลับมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ชองชาวอเมริกันที่แต่งงานกับคนไทยกลับมามากขึ้นในโครงการของ CI ทำเลหัวหิน เป็นต้น และเชื่อว่าชาวจีนและชาวฮ่องกง มีความสนใจที่จะเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพราะประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความปลอดภัยสูง
นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า ในปี 2566 CI จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างเสร็จใหม่ จำนวน 2 โครงการ รวมมูลค่า 4,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ SASARA Hua Hin (ศศรา หัวหิน) โครงการศศรา หัวหิน ลักชัวรี่ บีช ฟร้อน เรสซิเดนซ์ อาคารสูง 4 ชั้น 5 อาคาร จำนวน 110 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 65% และคาดว่าจะสามารถเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือน ธันวาคม 2566 และ 2.โครงการ The Issara Sathorn (ดิ อิสสระ สาทร) เป็นโครงการลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม สูง 36 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50% และคาดว่าจะสามารถเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือน ตุลาคม 2566 ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีในการรองรับความต้องการจากลูกค้าต่างชาติ
สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2566 บริษัทเตรียมจะลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,000-4,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการในหัวหิน 1 โครงการ เป็นโครงการ Low Rise สูง 7 ชั้น, โครงการที่ภูเก็ต 1 โครงการ เป็นพูลวิลล่า และโครงการในกรุงเทพฯ เป็นบ้านแนวราบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอดูจังหวะในการเปิดขาย
Reference: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น