AP ขยายตลาดแนวราบ เจาะกลุ่มบ้านหลังแรก

          AP รับอสังหาปีหน้าฟื้น แต่โจทย์เปลี่ยนชี้ “กลุ่มบ้าน หลังแรก” ต้องการ “แนวราบ” มากขึ้น ย้ำปีนี้จบยอดขายทำสถิติสูงสุดใหม่ พร้อมทำงานหนักกว่าเดิมปีหน้า ผ่อนเกณฑ์ LTV ช่วยแต่ต้องลุ้นธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อ ด้านนักวิเคราะห์คาดกำไรสุทธิโตต่อเนื่อง 2 ปี ฟันธงเข้าคำนวณ FTSE SET Shariah Index ดูดกองทุนลงทุนเพิ่ม เคาะ ซื้อ เป้า 11 บาท

          นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า บริษัทประเมินภาพทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2565 มีแนวโน้ม ฟื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งนี้หากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ รวมถึงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ใหม่ จะเป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างกำหนดแนวทางการดำเนินงานปี 2565 ทั้งการบริหารจัดการภายในองค์กร และบริหารจัดการพอร์ตสินค้าให้มีสินค้าพร้อมขาย และกระจายไปในหลากหลายทำเล เน้นการพัฒนาโครงการให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย (Unmet Needs) ควบคู่กับการสร้างระบบนิเวศที่จะช่วยสนับสนุนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีแบบครบวงจรของผู้พักอาศัย เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากขึ้น

          “ในเบื้องต้นมองว่าแนวโน้มตลาดอสังหาปี 2565 จะฟื้นกลับขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าการดำเนินธุรกิจนับจากนี้จะเปลี่ยนแปลงไป การวางแผนการดำเนินงานต้องคิดบนโจทย์ใหม่ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย อะไรที่ยังค้นไม่พบ อะไรที่คาดว่าจะกลายเป็น “ความต้องการที่แท้จริงใหม่ๆ” ซึ่งนั่นหมายความว่าจากวันนี้ไปอีกหลายปี บริษัทยังคงต้องเผชิญอยู่กับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากวิกฤติที่เข้ามาเปลี่ยนโลกรอบนี้”

          ชี้บ้านหลังแรกชอบแนวราบมากขึ้น

          ปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้ฟื้นตัวได้คือ ผ่อนคลายมาตรการ LTV ไปถึงปีสิ้นปี 2565 ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยยังคงทรงตัวในระดับต่ำ กระตุ้นให้ประชาชนตัดสินใจที่จะเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ และเลือกซื้อบ้านโดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการบ้านเพื่ออยู่อาศัย “เรียลดีมานด์” เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ด้วย

          “กลุ่มที่ยังขยายตัวได้ดีมากคือกลุ่มแนวราบ ซึ่งมี “ความต้องการที่เปลี่ยนไป” ของกลุ่มคนที่ต้องการ “บ้านหลังแรก” จากที่เคยมุ่งเป้าไปที่คอนโด ก็กลายมาเป็นซื้อบ้านแนวราบเลย ถือเป็นความต้องการที่เข้ามาเพิ่มจากกลุ่มลูกค้าวัยสร้างครอบครัวที่ต้องการขยายพื้นที่รอรับสมาชิกใหม่ ทั้งนี้ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณากรอบวงเงินสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ด้วย”

          ยอดขายโตส่งท้ายปี

          สำหรับภาพรวมทั้งปี 2564 บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายสุทธิเติบโตสูงกว่าประมาณการเดิม เห็นได้จากยอดขายช่วง 10 เดือนแรกของปี 2564 กลุ่มบริษัทสามารถทำยอดขายสุทธิได้กว่า 3.01 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ หนุนจากยอดขายกลุ่มบ้านเดี่ยว โดยมียอดลูกค้าเข้าชมโครงการบ้านเดี่ยวเอพี เฉลี่ยประมาณ 600 ครอบครัวต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

          นางสาววฤณ มหาดำรงค์กุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า การที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) คัดเลือก AP เข้าคำนวณ FTSE SET Index Series ในกลุ่ม FTSE SET Shariah Index ซึ่งจะมีผลวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ถือเป็นปัจจัยหนุนให้ นักลงทุนกลุ่มสถาบันเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน AP มากขึ้น

          โดยปัจจัยพื้นฐานของบริษัทก็มีความแข็งแกร่ง สามารถเพิ่มยอดขายได้ทั้งโครงการแนวราบ และคอนโดมิเนียม ดังนั้นจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ของ AP ขึ้นมาเป็น 4.47 พันล้านบาท และกำไรสุทธิปี 2565 ขึ้นมาเป็น 4.61 พันล้านบาท ตามยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามแผนการเปิดตัวโครงการ แนวราบ ที่คาดว่าในไตรมาส 4/2564 จะเปิดตัวโครงการ แนวราบใหม่ 12 โครงการรวมมูลค่า 8.56 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 7.9 พันล้านบาท ประกอบกับ AP มี Backlog รวมอยู่ที่ 3.46 หมื่นล้านบาท โดยเป็นยอดที่จะรอโอนในปี 2565 ประมาณ 8.83 พันล้านบาท จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 11 บาท คาด อัตราการจ่ายเงินปันผลปี 2564 ที่ 5.5%

Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น