LHรายได้ค่าเช่าเด้ง เปิดห้าง-โรงแรมดัน
LH ผู้บริหารเผยรายได้ธุรกิจให้เช่าทั้งในไทย-สหรัฐฟื้น จากนโยบายเปิด ประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนรายได้ครึ่งปีหลังโตแกร่ง เดินหน้าเปิดห้าง-โรงแรม ตามแผน ด้าน ธุรกิจอสังหาลุยเปิด 10 โครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้ มั่นใจรายได้ไตรมาส 2/2564 ยังขยายตัว หลังตุน Backlog แล้วกว่า 7-8 พันล้านบาท ฟากนักวิเคราะห์ ชี้ LH ติดโผหุ้นเปิดเมือง มองรายได้ธุรกิจเช่าน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในปีนี้ Valuation ยังไม่แพง Dividend Yield 6-7% แนะซื้อเคาะเป้า 9.35 บาท
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งหลังของปี 2564 รายได้ของกลุ่มบริษัทมีแนวโน้มฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าช่วงครึ่งปีแรก หนุนจากรายได้ของทุกกลุ่มธุรกิจทั้ง 1. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 2. ธุรกิจห้างสรรพสินค้า 3.ธุรกิจโรงแรม และ 4. อพาร์ตเมนต์เพื่อเช่าทั้งในไทย และสหรัฐอเมริกา
โดยกลุ่มบริษัทยังคงแผนการเปิดให้บริหารห้างสรรพสินค้า Terminal 21 พระราม 3 ภายในไตรมาส 4/2564 นี้รวมถีงยังคงแผนการทยอยเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ 2-3 แห่งต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้ทยอยฟื้นตัวขึ้น
”หากรัฐบาลสามารถเปิดประเทศได้ตามกำหนด ควบคู่กับการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในประเทศกล้ากลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ก็จะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจที่มีรายได้จากการเช่าทั้ง Serviced Apartment, ห้างสรรพสินค้า Terminal พัทยา, ซึ่งมีสัดส่วนทราฟฟิกจากชาวต่างชาติประมาณ 45-50% และโรงแรมซึ่งพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 80% ก็จะฟื้นตัว ส่วน Serviced Apartment ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกานั้นกลุ่มลูกค้ามีความมั่นคงมากเนื่องจากเป็นกลุ่มคนทำงานในธุรกิจเทค อาทิ กูเกิล ซึ่งมีรายได้ปานกลาง-สูง” นายอดิศร กล่าว
เดินหน้าเปิด 10 โครงการ
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 กลุ่มบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 8 โครงการ และ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ซึ่งบริษัทได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างได้ และผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายรอโอน (Backlog) ในอนาคต
พร้อมกันนี้คาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 ว่ายอดขายรอโอน (Backlog) และยอดโอนโครงการมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 1/2564 หนุนจากทั้งปริมาณผู้เข้าชมโครงการ และผู้ตัดสินใจจองซื้อโครงการในช่วงเดือนเมษายนพฤษภาคมที่ยังทรงตัวในระดับสูง โดย ณ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 7-8 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องปี 2564-2565
รายได้ธุรกิจเช่าพ้นจุดต่ำสุด
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง LH ว่า ช่วงก่อน COVID-19 รายได้ธุรกิจเช่าเคยอยู่ที่ระดับ 1 พันล้านบาท โดย 80% มาจากโครงการเช่าในไทย (Serviced Apartment และพื้นที่เช่าศูนย์ค้า Terminal พัทยา) สถานการณ์ COVID-19 มีผลให้รายได้ธุรกิจเช่าลดลงเหลือราว 400-500 ล้านบาท ในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นโยบายเปิดเมืองของภาครัฐที่เร่งฉีดวัคซีนปีนี้น่าจะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลาย ทำให้รายได้ธุรกิจเช่าน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในปีนี้ อีกทั้งปลายปีนี้ ทางบริษัทมีแผนเปิดศูนย์การค้า Terminal พระราม 3 และมีแผนเปิดโรงแรม 3 แห่ง (พัทยา 2, สุริวงศ์ และลุมพินี) ในปี 2565, 2566 และ 2567 ตามลำดับ ทำให้ทางฝ่ายคาดรายได้ธุรกิจเช่าปี 2565 จะเพิ่มเป็น 2.3 พันล้านบาท จากปี 2564 ที่ 2.0 พันล้านบาท ซึ่ง ลดลงจากปี 2563 ที่ 2.4 พันล้านบาท
ทางฝ่ายมองบวกต่อ Momentum กำไรที่ดีขึ้นในปีนี้จากธุรกิจบ้าน และแรงหนุนธุรกิจเช่าจะหนุนกำไรในปีหน้า ทำให้ LH เป็นหุ้นที่มี Theme เปิดเมืองด้วย ซึ่งเป็น Theme ที่ตลาดมองดีในระยะนี้ ส่วน Valuation ยังไม่แพง P/E ปี 2564 และ P/E ปี 2565 อยู่ที่ 12-13 เท่าเทียบค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 15 เท่า พร้อมกับ Dividend Yield 6-7% แนะนำ “ซื้อ”
Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น