J ปักธงปีเสือพร้อมผงาดปั้นไลน์ธุรกิจดันเต็มสูบ

         J เล็งทุ่มงบ 150 ล้านบาท ช็อปที่ดินอัพฐานอสังหาเพิ่ม แถมลุยศูนย์ดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยครบวงจร “SENERA SENIOR WELLNESS” เปิดช่องทางทำเงิน พร้อมยิ้มรับ ช้อปดีมีคืน หนุนยอดเช่าสดใส แถมปักเป้าปี 2565 ผลงานก้าวกระโดดจากปีก่อน เก็บเกี่ยวศูนย์ใหม่เต็มปี-อสังหาหนุน

          นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยว่าปี 2565 บริษัทวางแผนใช้เงินลงทุนราว 150 ล้านบาท เพื่อดำเนินการจัดซื้อที่ดินแปลงใหม่ประมาณ 2-3 แปลง รองรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบเพิ่มเติม หวังสร้างรายได้ให้กับธุรกิจในอนาคต

          ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังได้มีการได้ร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ในการพัฒนาโครงการศูนย์ดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยครบวงจรภายใต้ “SENERA SENIOR WELLNESS” ซึ่งรูปแบบจะเป็นการให้บริการเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยทั้งแบบไปเช้า เย็นกลับและแบบพักฟื้น รวมทั้ง มีการทำเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงวัย โดยมีมูลค่าโครงการดังกล่าวอยู่ที่ราว 300 ล้านบาท

          สำหรับโครงการ “SENERA SENIOR WELLNESS” สาขาแรก ตั้งอยู่บริเวณศูนย์การค้าชุมชน “JAS GREEN VILLAGE-KUBON” บนถนนคู้บอน ย่านรามอินทรา ขณะนี่อยู่ระหว่างการ ดำเนินการก่อสร้างและคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการปลายปี 2565 หวังเป็น การขยายช่องทางสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง

          ช้อปดีมีคืนหนุน

          นอกจากนี้ จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กระทรวงการคลังได้มีมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 2565 ภายใต้ชื่อ “ช้อปดีมีคืน” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้ประชาชน ทั่วไปสามารถให้บุคคลธรรมดาหัก ลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและค่าสินค้าโอท็อปตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท และให้มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม- 15 กุมภาพันธ์ 2565

          โดยมาตรการข้างต้นทำให้บริษัทประเมินว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัท เนื่องจากจะช่วยสนับสนุนให้แนวโน้มผู้ใช้บริการในศูนย์การค้าชุมชน (คอมมูนิตี้มอลล์) ในทำเลต่างๆ ขยายตัว ตลอดจนยังช่วยสนับสนุนอัตราการเช่าพื้นที่ในทำเลของคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ของธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น

          ผลงานก้าวกระโดด

          ส่วนทิศทางผลการดำเนินงานปี 2565 คาดว่าจะโตก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปี 2564 เพราะธุรกิจมีการรับรู้รายได้จากการให้เช่าพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น หลังช่วงเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดคอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 5 ในย่านคู้บอน ส่งผลให้พื้นที่เช่ารวม และรายได้จากค่าเช่าเติบโตต่อเนื่อง และจะรับรู้รายได้จากศูนย์ดังกล่าวปีนี้เข้ามาเต็มปี ตลอดจนคาดจะสามารถปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัท NEWERA เอกมัย-รามอินทรา ที่ยังเหลือขายอยู่กว่า 10 ยูนิตได้ทั้งหมดในปีนี้และเป็นปัจจัยเสริมเพิ่มเติมสำหรับโครงการ JAS GREEN VILLAGE คู้บอน มูลค่า 300 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ & quot; Green

          สำหรับโครงการ JAS GREEN VILLAGE คู้บอนนั้น จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ใน ศูนย์ดังกล่าวขยับเพิ่มเป็นประมาณ 90-96% และภายหลังจากการเปิดศูนย์คอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 5 ส่งผลให้พื้นที่เช่าของธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น จากเดิม ที่มีคอมมูนิตี้มอลล์ 4 แห่ง คิดป็น พื้นที่เช่าอยู่ที่ประมาณ 60,000 ตารางเมตร ซึ่งกระจายในทำเลต่างๆ อาทิ วังหิน, รามอินทรา, ศรีนครินทร์, อมตะ นอกเหนือ จากการให้เช่าพื้นที่ในส่วนของ IT Junctionในศูนย์การค้าต่างๆ

Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น