ส่อง เจนวาย ซื้อบ้านยุคใหม่!' ซีเคียวริตี้-สเปซ-ฟังก์ชัน มาแรง
บุษกร ภู่แส
กรุงเทพธุรกิจ
พฤติกรรมเลือกซื้อที่อยู่อาศัย Gen Y เปลี่ยนไป! ”ราคา” และ “ทำเล” ไม่ใช่ปัจจัยหลัก ในการตัดสินใจซื้ออีกต่อไป ยุคหลังโควิด-19 และสถานการณ์ผันผวนต่างๆ ทำให้ผู้คน คำนึงถึงความปลอดภัย ความต้องการพื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์วิถีชีวิต รวมทั้งการทำงานในรูปแบบเวิร์คฟรอมโฮม
สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด หรือ เทอร์ร่า บีเคเค กล่าวว่า ช่วงวิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาดปี 2563-2564 พฤติกรรมและความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคเปลี่ยนไปเน้นเรื่องความปลอดภัยขั้นสูง ที่ผสมผสานระหว่างการดูแลจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีเพื่อสร้างระบบความปลอดภัยสูงสุด! นับเป็นอันดับแรก ของการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ตามด้วยพื้นที่ใช้สอยในบ้านและฟังก์ชั่น ขณะที่ราคา โปรโมชั่น และทำเล กลายเป็นปัจจัยรอง
โดยที่ผ่านมาบริษัทได้จัดทำแบบสอบถามออนไลน์ 1,000 ชุด เพื่อสำรวจพฤติกรรม ผู้บริโภคการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในยุคโควิด ซึ่งกว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามเป็น Gen Y ที่เป็นกำลังซื้อหลัก และส่วนใหญ่สนใจซื้อบ้านเดี่ยวเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา คือคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม บ้านพักตากอากาศ และบ้านแฝด ตามลำดับ สอดคล้องกับ ”ธนพล ศิริธนชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT กล่าวถึง REDPAPER รายงานข้อมูลเทรนด์ จากการสำรวจในช่วงปลายปี 2564 จำนวน 1,700 คน อายุ 22-53 ปี มีรายได้ต่อเดือน 35,000-160,000 บาท สามารถแบ่งประเภทผู้บริโภคที่สนใจซื้อ ที่อยู่อาศัยตามไลฟ์สไตล์ได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ Outgoer-คนชอบทำกิจกรรมนอกบ้าน 21% Wellbeing-คนใส่ใจสุขภาพ 23% Well-Organized-คนชอบจัดบ้าน 24% และ Homebody-คนติดบ้าน 32%
โดยกลุ่มคนติดบ้าน ชอบจัดบ้าน และใส่ใจสุขภาพ เป็น 3 กลุ่มที่สะท้อนความสนใจ ซื้อ “บ้านเดี่ยว” อย่างชัดเจน เพราะเป็นกลุ่ม ที่ใช้เวลาส่วนมากที่บ้านจึงให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่บ้านมากที่สุด รองรับเทรนด์ เวิร์คฟรอมโฮม หรือการทำงานแบบไฮบริด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้สนใจซื้อบ้านเดี่ยว
การสำรวจพบว่า กลุ่มผู้สนใจซื้อบ้านคำนึงถึงความ “คุ้มค่า” มาเป็นอันดับแรก “ไม่ได้” มองหาบ้านที่มีราคาถูกที่สุดแต่จะเลือกบ้านที่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าคุ้มราคาได้มากที่สุด โดยพิจารณาจากฟังก์ชั่น การใช้งานของพื้นที่ภายในบ้าน คุณภาพ วัสดุการก่อสร้าง และ ขนาดของพื้นที่ใช้สอย ถือเป็นเรื่องที่จับตามองใกล้ชิด
”ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำอยู่เป็นเรดโอเชียน(Red Ocean) การที่จะอยู่ท่ามกลางทะเลแดงเดือดได้นั้นจำเป็นต้องมีข้อมูล เชิงลึก เพื่อใช้พัฒนาสินค้าและบริการที่แตกต่าง จากคู่แข่งในตลาด เพราะถ้าปลาเหมือนกันหมดลูกค้าก็ไม่รู้ว่าจะซื้อปลาตัวไหนดี ฉะนั้นเราต้องสร้างความแตกต่างท่ามกลางน่านน้ำ สีแดง จึงเป็นที่มาของ REDPAPER”
ธนพล ย้ำว่า เป็นหน้าที่ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะบริษัทมหาชนที่ต้องแชร์ข้อมูลให้ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) เช่น สถาบันการเงิน คู่ค้า ซัพพลายเออร์ จะได้เห็นเทรนด์ว่า ทำไมช่วงนี้บ้านเดียวขายดี ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียมยอดขายตก ถือเป็น กระจกสะท้อนให้ทุกคนได้มองเห็นปัญหาว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร!
ในยุคนี้ข้อมูลทุกอย่างแทบไม่ได้เป็น ความลับอะไร ถือเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการรายเล็กที่อาจเข้าไม่ถึงฐานข้อมูลเพื่อพัฒนาโครงการ
อย่างไรก็ดี ในแง่ภาพรวมข้อมูลอาจไม่แตกต่างกันมาก เช่น การที่ตลาดบ้านเดียวกลายเป็นสินค้าที่ขายดี เพราะกลุ่มลูกค้า มีกำลังซื้อ บางคนสามารถซื้อเงินสดด้วยซ้ำไป แต่เมื่อลงลึกในรายละเอียดพบว่า พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปจากเดิมที่ให้ความสำคัญเรื่องทำเลหรือความลักชัวรีของคลับเฮ้าส์ หรือตัวบ้าน แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจ สถานการณ์โรคระบาด คนซื้อหันมาให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากขึ้น!
สิ่งที่น่าสนใจคือเรื่อง “ความปลอดภัย”เป็นปัจจัยที่คนซื้อที่อยู่อาศัยหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น ทั้งด้านที่เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายและชีวิตทรัพย์สิน สะท้อนมายังปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญ เช่น การใช้พื้นที่ ที่สามารถทำกิจกรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลี้ยงสัตว์ หรือ ทำครัวภายในบ้านหรือคอนโดมิเนียม รวมถึงพื้นที่ในการทำงานที่บ้าน
”แม้ภาพรวมเห็นเหมือนๆ กัน แต่ขึ้น อยู่ที่มุมมองการวิเคราะห์ นำไปปรับใช้กับการพัฒนาโครงการของตนเองให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย”
ก่อนหน้านี้บรรดาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายมุ่งปรับขยายพื้นที่ ฟังก์ชั่น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า Gen Y หรือกลุ่ม Millennials เกิดระหว่างปี 2523-2543 มีอายุ 23-38 ปี ซึ่งเป็นกลุ่ม ที่มีอิทธิพลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เพราะอยู่ในวัยทำงาน มีความสามารถในการซื้อ และอยู่ในช่วงต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยให้ความสำคัญกับองค์ประกอบทางด้านเทคโนโลยีเพื่อการประหยัดพลังงาน เช่น การติดตั้งโซลาร์ รูฟ (Solar Roof) บนหลังคา โดยใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ การติดตั้ง Ev Charger การใช้ระบบสแกนใบหน้าเพื่อลดการสัมผัส รวมถึงการออกแบบห้องเพื่อรองรับการทำงานไลฟ์ขายของ เล่นเกมส์
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ