อสังหาฯ เกาะกระแส อีวี แห่ติดตั้งเครื่องชาร์จรับดีมานด์คนรุ่นใหม่
บุษกร ภู่แส
กรุงเทพธุรกิจ
จากการที่รัฐบาลตั้งเป้าให้ไทยเป็น ฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ทำให้ค่ายรถยนต์หันมาทำตลาดอีวีกันมากขึ้น รวมถึงมีรถที่ราคาจับต้องง่ายขึ้น ส่งผลให้ดีมานด์การใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากปัจจัย เหล่านี้เองทำให้ค่ายอสังหาฯ ไม่ว่าเป็นแสนสิริ, เสนาฯ, พฤกษา และไรมอนแลนด์ หันมาติดตั้ง เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับความต้องการ คนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น!
อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากเทรนด์ทั่วโลกที่จะขับเคลื่อนด้วยอีวี เช่นอังกฤษที่กำลังจะมีกฎหมายกำหนดให้บ้านและสำนักงานที่สร้างใหม่ต้องมีการติดตั้งเครื่องชาร์จ คาดว่า จะบังคับใช้ภายในปี 2565 ขณะเดียวกันแนวโน้ม ตลาดรถไฟฟ้าในไทยก็ได้รับความนิยม เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อค่ายรถยนต์ทั้งญี่ปุ่น จีน เกาหลี ยุโรป อเมริกาหันมาทำตลาด และมีราคาถูกลงต่ำกว่าล้านบาททำให้คนไทยสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ”ปัจจุบันลูกค้าในโครงการของแสนสิริที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามีจำนวนกว่า 100 คน จากเดิมที่มีไม่ถึง 10 คนเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา จึงได้สานต่อการติดตั้งเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging) ให้กับบ้านในโครงการเพื่อสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยเพื่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นตอบโจทย์แนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” ซึ่งสอดคล้องกับการสำรวจพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่และผู้อยู่อาศัยแสนสิริ ในเซกเมนต์บีขึ้นไป ซึ่งพบว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม บางส่วนเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า หรือกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในอนาคต
สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน ที่ระบุว่าจากการสำรวจคนรุ่นใหม่ในไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น พบว่า 86% ให้ความใส่ใจสังคม- สิ่งแวดล้อมมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง 80% ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม และ 81% ระบุว่า เต็มใจจ่ายแพงขึ้น เพื่อให้ได้สินค้าสำหรับวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม
อุทัย ระบุว่า บริษัทเป้าหมายขยาย การติดตั้งสถานี ชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมโครงการแนวสูงที่เปิดใหม่ และโครงการแนวราบในระดับเซ็กเมนต์บี ขึ้นไป ทุกโครงการ ภายใต้งบลงทุน 600 ล้านบาท หรือการติดตั้งเครื่องชาร์จอีวีประมาณ 1,500 เครื่อง ภายใน 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดเตรียมสถานีชาร์จให้กับลูกบ้านแล้ว เช่น โครงการดีคอนโด เดอะเบส เพราะราคารถอีวีต่ำลงเรื่อยๆ กลุ่ม Affordable ที่สามารถจะซื้อบ้านในกลุ่ม ก็มีโอกาสที่จะใช้รถอีวีได้ ในอนาคตแต่ช่วงเวลานี้ราคาอาจยังถูกมากการเข้าถึงอาจไม่ง่ายเท่ากับกลุ่มบี และกลุ่มเอ แสนสิริพยายามจัดเตรียมหัวชาร์จ ให้เหมาะสม
“เชื่อว่า ในอนาคตราคาอีวีจะลดลงมาเรื่อยๆ จะเห็นอีวีราคาต่ำล้านออกมาจำหน่ายเพราะค่ายรถจีนทำออกมาแล้ว นั่นหมายความว่า ลูกบ้านแสนสิริ ไม่ว่าจะกลุ่มบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโด ที่เคยใช้ซิตี้คาร์ จะเปลี่ยนมาใช้อีวีเพิ่มขึ้น เมื่อถึงเวลานั้นบริษัทพร้อมที่ติดตั้งตั้งเครื่องชาร์จอีวีในกลุ่มลูกค้า Affordableเช่น ทาวน์เฮ้าส์ ราคา2-3 ล้านบาท ซึ่งต้องศึกษาความต้องการ และความเหมาะสม กับช่วงเวลา”
เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแนวโน้มความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เสนาฯ จึงได้ ติดตั้งวางระบบ EV Charger ในโครงการหมู่บ้านเสนา พาร์ค แกรนด์ รามอินทรา และ เสนา แกรนด์ โฮม รังสิต - ติวานนท์ ที่โครงการ เสนา พาร์ค แกรนด์ รามอินทรา ติดตั้งให้ลูกค้าใช้งานแล้ว ทั้งหมด 6 หลัง ส่วนโครงการ เสนา พาร์ค วิลล์ รามอินทรา ทางเสนาจัดทำเป็น EV Station เป็นจุด Drop
ส่วนกลางไว้ให้ เช่นเดียวกับที่โครงการแนวสูง คอนโด แบรนด์ตั้งแต่ Niche MONO ไว้ให้ลูกค้าเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นการตอบสนองกับแนวโน้มความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความใส่ใจ กับสินค้าหรือบริการรักษ์โลกมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับพฤกษาที่จะตอบโจทย์ลูกค้ารวมถึงพันธกิจในการสร้างความยั่งยืน จึงเป็น ที่มาการติดตั้ง ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 4-5 โครงการ อาทิ เดอะ ทรี พัฒนาการ แชปเตอร์ เจริญนครริเวอร์ไซด์ ส่วนโครงการบ้านเดี่ยวจะมี การเดินสายไฟรองรับสำหรับลูกบ้านที่มีรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่ส่วนที่ชาร์จมักมาพร้อมกับรถยนต์อยู่แล้ว
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ