อสังหาฯเฮปลดล็อกแคมป์ เร่งสปีดก่อสร้างเต็มพิกัด
อสังหาฯ ขานรับสิ้นสุด มาตรการล็อกแคมป์ก่อสร้าง กทม.ปริมณฑล เร่งงานก่อสร้างทันกำหนด หลังดีเลย์ 1 เดือน ระบุรัฐขยายล็อกดาวน์อีก 1 เดือน กระทบกำลังซื้อ แนะออกมาตรการเยียวยาให้ทั่วถึง
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ในฐานะประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาครัฐตัดสินใจขยายมาตรการล็อกดาวน์อีก 1 เดือน พร้อมเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด จากเดิม 13 จังหวัด กาประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน 3 ทุ่ม-ตี 4 งดบริการขนส่งข้ามจังหวัด ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และ การใช้ชีวิต แต่การประกาศปิดแคมป์ก่อสร้างในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล ได้สิ้นสุด ลงแล้ว
ดังนั้น แม้ไม่ได้ประกาศอะไร เป็นพิเศษ แต่การที่อสังหาฯ เข้าสู่เกณฑ์การล็อกดาวน์เหมือนธุรกิจอื่นๆ ในแง่ดีถือว่า ได้รับผลกระทบทางตรงลดลง ซึ่งเดิมทีลักษณะการล็อกดาวน์นี้ เคยเกิดขึ้นในช่วงปี2563 มีวัตถุประสงค์ ให้คนเคลื่อนย้ายลดลง อยู่บ้านมากขึ้นเพื่อลดปริมาณการแพร่ระบาดของ โควิด-19
”ผลกระทบในภาคอสังหาฯ ไม่ได้มีมากไปกว่าเดิม เพราะแต่ละจังหวัดที่มีมาตรการเข้มในแง่การก่อสร้าง ถูกปลดล็อกไปแล้ว ยกเว้นสมุทรสาคร ซึ่งประกาศของจังหวัดเป็นปลายเปิด ขณะที่กรุงเทพฯ ระบุไว้ชัดเจนว่า หยุดงาน ก่อสร้าง และห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.- 27 ก.ค. 2564 ซึ่งเมื่อผ่านไปแล้วเป็นเรื่องที่ดีทำให้ผู้ประกอบการเร่งงานก่อสร้าง ที่ค้างอยู่ให้ทันเวลาที่กำหนด”
โดยปัจจุบันผู้ประกอบการสามารถกลับมาดำเนินการก่อสร้างได้ตามปกติ แต่ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังใน แต่ละไซต์งาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ในส่วนของกานดา พร็อพเพอร์ตี้ จะใช้ชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit (ATK) ก่อนทำงาน และหากพบแรงงาน ติดเชื้อก็พร้อมจะทำโรงพยาบาลสนามของตนเอง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ความพร้อมของหน่วยราชการด้วย เชื่อว่า ผู้ประกอบการอสังหาฯ พร้อมดำเนินการเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
”แม้ว่าจะสามารถกลับมาก่อสร้างได้ แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกคนคงระมัดระวังและมีมาตรการที่เข้มงวดในการดูแลแรงงาน เช่น การกระจายแคมป์คนงานเพิ่มเพื่อลดความแออัด ซึ่งการก่อสร้างแนวราบอย่างบ้านจัดสรร สามารถทำได้ง่ายกว่าแนวสูงที่มีพื้นที่จำกัด และหากมีการติดเชื้อจำนวนมาก ต้องหยุดก่อสร้าง หรือใช้มาตรการ บับเบิล แอนด์ ซีลเพื่อคุมการระบาดโควิด”
ส่วนมาตรการขยายล็อกดาวน์อีก 1 เดือน พร้อมเพิ่มเป็นสีแดงเข้ม เคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน 3 ทุ่ม-ตี 4 งดบริการขนส่งข้ามจังหวัดนั้น อาจจะมีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจในภาพรวม มากกว่า แต่ภาคอสังหาฯ จะมีผลทางอ้อมในแง่กำลังซื้อของทุกกลุ่ม ทุกธุรกิจในภาพรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นหมายความว่า รัฐบาลต้องดูแลมาตรการเยียวยาให้ทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร คนขับรถ ฯลฯ เนื่องจากคนบางกลุ่มไม่มีประกันสังคมเหมือนคนทำงานประจำ
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
