หนุนคนไทยเร่งฉีดวัคซีนรับเปิดประเทศ ระบุคอนโดฯรับอานิสงส์แรงสุด ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตัวแปรนโยบาย 120 วัน
การที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าจะเปิดประเทศเพื่อรับชาวต่างชาติภายใน 120 วัน หรือประมาณช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 เป็นเรื่องที่สร้างความฮือ ฮาและสร้างความตื่นตัวมากเป็นพิเศษอีกทั้งยังเป็น เรื่องที่มีผลต่อเนื่องให้หลายๆ ภาคส่วนตระหนักถึง สิ่งที่จะเป็นไปได้เมื่อมีการเปิดประเทศ โดยเฉพาะการจับตาดูความคืบหน้าของโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ หรือการใช้พื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตเป็น แห่งแรกในการเปิดรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งกำหนดการจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ก.ค.นี้ หลังจาก ที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เร่งระดมการฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยมีเป้าหมายว่า ก่อนวันที่ ก.ค.64 1 จะต้องมีประชาชนในพื้นที่ได้รับวัคซีนแล้วไม่ต่ำกว่า 70% เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในจังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้หากภายหลังการตำเนินโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ได้รับการตอบรับที่ดีเชื่อว่าจะมีการขยายพื้นที่ใหม่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นเช่นเกาะสมุยและหัวเมืองท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ต้องจับตาดูว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อนั้นใหม่ในจังหวัดภูเก็ต หลังการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนซัล แทนซี่ จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เห็นความพร้อมในด้านต่างๆ ที่ชัดเจนของการเตรียมความพร้อม รองรับการเปิดประเทศ เพราะการจะเปิดประเทศได้ ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศนั้นก็ยัง มีอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งจัดการให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องของจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่ยังคงสูงถึง 2,500-3,000 คนต่อวัน และเรื่องของการฉีดวัคซีนที่ยังคงล่าช้าอยู่
เรื่องของเงื่อนไขการเปิดประเทศภายใน 120 วัน นั้นอาจจะไม่ใช่การเปิดทั้งประเทศ 77 จังหวัด แต่เบื้องต้นคิดว่าเป็นการเปิดจังหวัดที่มีความพร้อมทั้งในเรื่องของจำนวนผู้ติดเชื้อที่ต่ำมาก และเรื่องของการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมถึงในระดับที่มันใจว่าจะไม่เกิดการแพร่ระบาดรุนแรงอีกครั้ง โดยอาจจะรอดูสถานการณ์ ของจังหวัดภูเก็ตที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ถ้าสถานการณ์ต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ ที่ควบคุมและสร้างความมั่นใจได้ก็อาจจะทยอยเดินตามภูเก็ตโมเดลมากขึ้นในอนาคต รวมไปถึงเรื่องของการเปิดประเทศด้วย
การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น เป็นเรื่องที่สร้างกระแสตื่นตัวในระดับหนึ่ง ไม่เพียงแต่ในฝั่งของธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะธุรกิจอื่นๆ ที่ต่อเนื่องจากการที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยก็เริ่มมีการขยับตัวกันแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะส่วนหนึ่งของผู้ซื้อที่ผู้ประกอบการรอคอยอยู่นั้น เป็นชาวต่างชาติถ้าเริ่มมีการเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกมากขึ้นก็อาจจะมีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม โดยชาวต่างชาติมากขึ้นเช่นกัน รวมไปถึงเรื่องของการจอง การซื้อคอนโดมิเนียมที่มีความเป็นไปได้ที่จะกลับมามีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง หลังจากที่ลดลงไป ตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 เพราะการห้ามเดินทางระหว่างประเทศ เพียงแต่คงไม่ใช่การกลับมาแบบมากมายเท่าไหร่ เป็นการเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำในปี พ.ศ.2563 มากกว่า คงไม่กลับไปเทียบเท่ากับจำนวนในปี พ.ศ.2561-2562
ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ กลุ่มที่มีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อม กรงการคโอนกรรมสิทธิ์อยู่ในสต๊อกเยอะก็อาจจะเริ่มมีการ ประชาสัมพันธ์ และเริ่มกลับไปหากลุ่มผู้ซื้อต่างชาติมากขึ้น รวมไปถึงการติดต่อกับทางนายหน้าต่างชาติ ที่อาจจะห่างหายกันไปในช่วงที่ผ่านมา และอาจจะมีกิจกรรมท่องเที่ยวพร้อมเยี่ยมชมโครงการ หรือ ท่องเที่ยวแล้วไปพักที่โครงการของผู้ประกอบการต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เพื่อเป็นการให้ชาวต่างชาติสัมผัสกับประสบการณ์จริง เพื่อเป็นการสร้างความน่าสนใจก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม เพียงแต่ฝั่งของผู้ประกอบการต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ กับทางผู้ซื้อด้วยความสมบูรณ์ของคอนโดมิเนียม และเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์ต่างๆ อีกทั้งเรื่องของ ความเป็นจริงต่างๆ ที่ไม่ใช่การขายฝันหรือเน้นแต่เรื่อง ของผลกำไรหรือผลตอบแทน มาไม่ถึงแบบที่เคย เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับผู้ซื้อต่างชาติจำนวนไม่น้อยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แม้ว่าสุดท้ายแล้วยังคงไม่รู้ว่าจะได้เปิดประเทศแบบที่ประกาศออกมาหรือไม่ และเป็นการเปิดประเทศ แบบเป็นการเปิดแค่บางจังหวัดและยังคงต้องมีการ กักตัวในจังหวัดที่มีการเปิดปุระเทศก่อน 14 วันจึงจะสามารถเดินทางออกไปนอกพื้นที่ได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ความคึกคักจะเกิดขึ้นในบางจังหวัดมากกว่าทั้งประเทศ และก็ยังดีกว่าปิดประเทศไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาในประเทศไทยแบบที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังต้องดูในฝั่งของประเทศต้นทางของนักท่องเที่ยว ต่างชาติด้วยว่าเอื้อประโยชน์ต่อการเดินทางออกนอก ประเทศแล้วกลับไปหรือไม่ เพราะถ้ายังต้องมีการ กักตัว 14 วันเมื่อเดินทางกลับไปก็อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่สามารถเดินทางเข้ามาได้นั้นลดจำนวนลงไปไม่น้อยเช่นกัน
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่รัฐออกมาประกาศเป้าหมาย 120 วันจะเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีเพราะการกำหนดเป้าหมายดังกล่าวจะทำให้ทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและเอกชนมีเป้าหมายเดียวกัน ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ทุกฝ่ายมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดประเทศในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งฉีดวัคซีน ป้องกันไวรัส โควิด-19 การดูแลตัวเองการป้องกันตัวเองจากโอกาสการติดเชื้อ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทุกคนต้องร่วมกันดำเนินการให้เป็นทิศทางเดียวกัน
โดยเฉพาะในส่วนของภาคการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยซึ่งนับรวมไปถึงบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ภาคการค้าเนื่องจากการท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องจักร สำคัญในการผลักดัน ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ให้เกิดการขยายตัวในอนาคต สำหรับการกำหนดเป้าหมายการเปิดประเทศนั้น ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีกับทุกๆ คน เนื่องจากเป็นโอกาสที่จะทำให้รายได้ของ ประชาชนภาคการค้าภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และส่อุตสาหกรรมจะกลับมาขยายตัวตามปกติ
ในส่วนของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นการเปิดประเทศในครั้งนี้ถือว่าเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญ เนื่องจากโอกาสในการซื้อขายอสังหาฯทั้งในประเทศ และการซื้อขายที่อยู่อาศัยในกลุ่มของชาวต่างชาติจะเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียม ซึ่งขณะนี้ มีสินค้าพร้อมอยู่ที่รองรับความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติ ได้เป็นจำนวนมาก และเป็นโอกาสดีในการที่จะระบาย สต๊อกในมือออกไป
“ในส่วนของ เอ็น.ซี.ฯ นั้นการเปิดประเทศในครั้งนี้อาจได้รับอานิสงส์น้อยกว่า ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเนื่องจากกำลังซื้อต่างชาติที่เข้ามาจะซื้อ ห้องชุดเป็นหลัก ขณะที่เอ็น.ซี.ฯ มีพอร์ตการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลักโดยมีสัดส่วนสูงถึง 90% ส่วนที่เหลือเป็นโครงการห้องชุดในต่างจังหวัด ซึ่งมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับกลุ่มสินค้าหลัก”
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการเปิดประเทศในช่วงแรก จะยังไม่ส่งผลดีต่อ กลุ่มสินค้าที่อยู่อาศัยแนวราบมากนักแต่หากสามารถเปิดประเทศได้เต็มที่เมื่อไหร่ผลบวกต่างๆ จะตามมาอีกมาก โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวและแนวโน้มของการขยายตัวกลับมาของ ดีมานด์ที่อยู่อาศัยในทุกภาคส่วนเนื่องจากการเปิดประเทศจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาขยายตัวและ ดำเนินงานตามปกติซึ่งจะมีผลต่อรายได้ของประชากร ของประเทศในทุกส่วนและจะส่งผลต่อกำลังซื้อกลุ่มผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อการ ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้การเปิดประเทศได้เต็มที่จะช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมในช่วงนี้ ดังนั้นในช่วงก่อนที่จะมีการเปิดประเทศภายใน 120 วันหลังจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจทุกภาคส่วนหน่วยงานภาครัฐรวมไปถึงประชาชนต้องมี่การเตรียมความพร้อม โดยในส่วนของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา อาจมีการชะลอหรือพักสายการผลิตหรือชะลอการดำเนินธุรกิจลง แต่หลังจากนี้ทุกฝ่ายต้องกลับไปตรวจสอบสต็อกสินค้าเตรียมความพร้อมรวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านงานบริการ ให้พร้อมรับกับความต้องการ ที่จะเกิดขึ้นหลังการเปิดประเทศ เช่น หากมีออเดอร์ เข้ามาสามารถที่จะส่งให้กับลูกค้าได้ทันที
สำหรับการเปิดประเทศในครั้งนี้กลุ่มที่จะได้อานิสงส์ก่อนเป็นกลุ่มแรกคือกลุ่มธุรกิจโรงแรม กลุ่มที่อยู่อาศัยเพื่อเช่า และกลุ่มคอนโดมิเนียมที่มี สต๊อกอยู่ในมือซึ่งก่อน ในมือซิงก่อนหน้านี้อาจจะมีการชะลอการทำตลาดไปบ้างเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 แต่หลังจากนี้จะต้องมีการเตรียมความพร้อมเช่นกันนำสินค้ากลับมารีวิว และมีการกลับมาเปิดตัวสินค้าใหม่หรือโครงการใหม่ เนื่องจากเป็น กลุ่มสินค้าเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
“การเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ก่อนมีการเปิดประเทศเพราะก่อนหน้านี้เคยมีกรณี ตัวอย่างในประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นมาแล้ว โดยหลังจากที่สหรัฐฯเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศเป็นจำนวนมากและทำให้สามารถกลับมาเปิดประเทศได้ไวขึ้นผลบวกที่ตามมาคือ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและธุรกิจต่างๆ แต่ความพร้อมใน บางธุรกิจ เช่น ธุรกิจการบินซึ่งมีการหยุดให้บริการไป หลังจากกลับมาให้บริการดืมานด์มีการขยายตัวอย่างมากจนทำให้จำนวนเที่ยวบินและที่นั่งไม่พอรองรับความต้องการของประชาชนในประเทศรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่เดินทางเข้ามาแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการเตรียมพร้อมรับมือการเปิดประเทศมาแล้วก็ตาม ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นนี้ แม้จะมีการเตรียมความพร้อมแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอดังนั้นในช่วงที่ประเทศไทยจะมีการเปิดประเทศทุกภาคธุรกิจจะต้องมีความพร้อมให้มากที่สุด เพื่อรองรับความต้องการที่จะเข้ามาหลังจากนี้”
นายสมนึก กล่าวว่า สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีความหวังมากที่สุดหลังการเปิดประเทศคือกลุ่มคอนโดมิเนียม ซึ่งการกลับมาเปิดประเทศในครั้งนี้ ผู้ประกอบการที่พัฒนาคอนโดมิเนียมต่างมีสต๊อกในมืออยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น การเตรียมการด้านการบริหารจัดการสต๊อกห้องชุดรวมไปถึงการเตรียมความพร้อมร่วมกับบริษัทเอเยนซีซึ่งเป็นตัวแทนการขายให้กับบริษัทต้องมีการหารือและวางแนวทางและแผนในการเจาะกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนและมีความพร้อมรองรับดีมานด์ได้อย่างรวดเร็ว และเพียงพอ
สำหรับข้อเสนอแนะให้กับผู้บริโภค เพื่อเตรียมความพร้อมในครั้งนี้คือการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้นเพราะจะทำให้สามารถดูแลกันเองและมีภูมิคุ้มกันหมู่ภายในประเทศเร็วขึ้น ส่วนในกลุ่มของผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอ ขณะเดียวกันเพื่อรองรับดีมานด์ใหม่ที่จะฟื้นตัวกลับมาผู้ประกอบการควรกลับมาตรวจสอบความพร้อมของสินค้าและรูปแบบการทำตลาดที่ให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด
ส่วนในภาคสถาบันการเงินนั้นในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการเข้มงวดดูแลด้านความเสี่ยงของลูกค้าอย่างมากทำให้สัดส่วนในการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังคงอยู่ในระดับสูง แต่อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นรองรับการกลับมาขยายตัวของกำลังซื้อและรายได้ของผู้บริโภคที่คาดว่า จะกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้น
“หลังการเปิดประเทศนั้นสถาบันการเงินต่างๆน่าจะมีการเตรียมความพร้อมรองรับกำลังซื้อของลูกค้าที่จะกลับมา เช่น การสื่อสารกับลูกค้า ทั้งในกลุ่มลูกค้า ที่เป็นรายย่อยและธุรกิจต่างๆ โดยคอยให้คำปรึกษา และวางแผน ก่อนการขอสินเชื่อโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ และลูกค้าที่รายได้มีโอกาสกลับมาขยายตัว หลังการเปิดประเทศ เช่น กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและการบิน” นายสมนึกกล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตามความหวังของการเปิดประเทศในครั้งนี้ยังคงต้องติดตามดูว่า “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ซึ่งเป็นโครงการนำร่องการเปิดประเทศจะประสบความสำเร็จ ตามที่มีการคาดหมายไว้หรือไม่ เพราะหากได้รับการตอบรับที่ดีแน่นอนว่าจะมีการขยายเฟสการท่องเที่ยวออกไปในพื้นที่ใหม่ เช่น เกาะสมุย และจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ รวมไปถึงการเปิดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เพื่อรองรับการกลับเข้ามาลงทุนของกลุ่มธุรกิจต่างชาติ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาหารือด้วย
Reference: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา