มั่นคงฯ รุกธุรกิจคลังสินค้า-เวลเนสลดเสี่ยงอสังหาฯ

          มั่นคงฯ ทุ่ม 3 พันล้าน เบนเข็มลุยธุรกิจคลังสินค้าและเวลเนส รับเมกะเทรนด์ ลดความเสี่ยงอสังหาฯขาลง ตั้งเป้า 3 ปี ขยายคลังสินค้า 1 ล้านตร.ม. กองรีททะลุหมื่นล้าน พร้อมเปิดตัวโครงการ รักษ วิลเลจ สามพราน เฟสแรก ไตรมาสสี่ปีนี้ รองรับลูกค้าคนไทย ขณะที่บางกะเจ้าร่วมทุน บริษัทในเครือบำรุงราษฎร์รุกธุรกิจดูแลสุขภาพ และเวลเนสเต็มรูปแบบ ตั้งเป้า 3 ปีสัดส่วน นอนอสังหาฯ 70%

          นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทปรับแผนธุรกิจใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากรายได้ช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีรายได้คงที่เฉลี่ยปีละ 2,000 ล้านบาท มีกำไร 30% ซึ่งมาจาก12-18 โครงการของบริษัทดังนั้นบริษัทจึงหันมาให้ความสำคัญกับการขยายการลงทุนใน 2 ธุรกิจที่มีศักยภาพ คือ คลังสินค้าให้เช่าและเวลเนส ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเพื่อเสริมให้กับมั่นคงให้มีความมั่นคง หนึ่งในนั้นคือ โรงงานและคลังสินค้าให้เช่า รวมทั้งการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักภาพหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19

          ลงทุน 3 พันล้านผุดคลังสินค้า-เวลเนส

          โดยในปีนี้ใช้งบลงทุน 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคลังสินค้าให้เช่า 2,000 ล้านบาท ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ในพื้นที่ศักยภาพจำนวน 6 ทำเลรองรับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้เครือธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

          อีก 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุน โครงการรักษ วิลเลจ ที่สามพราน เฟสแรก 400 ล้านบาท ด้วยการเช่าโรงแรมโรส การ์เด้นส์ จำนวน 2 อาคาร กว่า 60 ยูนิต และมีพื้นที่ เวลเนส 4,000 ตร.ม.คาดว่าเปิดตัวในไตรมาส 4 ปีนี้

          ส่วนที่เหลืออีกกว่า 100 ยูนิตทยอยเปิด 10-15 ยูนิต บนเนื้อที่ 20 ไร่ เพื่อทำเมดิคัล วิลเลจ รองรับกลุ่มลูกค้าคนไทย ที่เข้ามาใช้บริการประมาณ 70% ส่วนที่เหลือ 30% เป็นชาวต่างชาติ

          ขณะที่โครงการรักษ ที่บางกะเจ้า เน้นกลุ่มลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก 70% ส่วนที่เหลือ 30% เป็นคนไทย โดยร่วมกับทุน “ไวทัลไลฟ์ อัลไลอันซ์” บริษัทย่อย โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สัดส่วน 50:50 เปิดบริษัท “เฮลท์ แอนด์  เวลเนส เวนเจอร์ จำกัด” รุกธุรกิจดูแลสุขภาพและเวลเนสเต็มรูปแบบ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและฐานลูกค้าจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โดยลูกค้าหลักๆ จะเป็นกลุ่มตะวันออกกลาง

          ส่วนโครงการอสังหาฯ เพื่อขายต้อง รอสถานการณ์ความเป็นไปได้ในการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่มีโครงการในมือ 2-3 โครงการมูลค่า 5,000 ล้านบาท

          เจาะพื้นที่ฟรีโซน-โลจิสติกส์

          ”ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจนอกกลุ่มอสังหาฯ เพื่อขาย มีสัดส่วนรายได้ 36% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 70% ภายใน 3 ปี จากเดิมคาดว่าจะมีสัดส่วน 50% ซึ่งจะทำให้ในอนาคตสัดส่วนอสังหาฯ เพื่อขายลดลงไปโดยปริยาย”

          นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 400,000 ตร.ม. บนทำเลศักยภาพและโลจิสติกส์ที่สำคัญย่านบางนาทำให้บริษัทตั้งเป้าขยายพื้นที่ถึง 1,000,000 ตารางเมตร ในอีก 3 ปีข้างหน้า พร้อมกันนั้นบริษัทได้พัฒนาโรงงานและคลังสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน ด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เน้นในเขตพื้นที่สีม่วง ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์สำหรับที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้า พื้นที่เขตปลอดอากร (Free  Zone) และพื้นที่ในเขตบางนา-ตราด ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญด้านโลจิสติกส์

          ล่าสุดโครงการวังน้อย ในโซนเหนือและอีสาน ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าให้กับ สยามแม็คโคร สาขาวังน้อย บนพื้นที่ทั้งหมด 140 ไร่ ซึ่งต้องส่งมอบช่วงแรก 1 แสนตร.ม. กลางปี 2566 หลังจากนั้นอีก 1  ปี ส่วนพื้นที่ ที่เหลืออีก 20,000 ตร.ม. ลูกค้าหลักคือ ผู้ประกอบการที่ต้องการเช่า ที่เรียกว่าบิวทูสูท

          นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (PROSPECT REIT) ปัจจุบันรวมมูลค่ากองกว่า 3,600 ล้านบาท โดยทางบริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตของกองสู่ 10,000 ล้านบาทในอีก 3 ปี

          เล็งเปิด เมดิคัล วิลเลจ บางกะเจ้า

          ด้าน นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด กล่าวถึง ทิศทางธุรกิจของโครงการรักษ วิลเลจ สามพราน ว่า ทางบริษัทมีความตั้งใจพัฒนาการบริการด้านสุขภาพให้ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่ในด้านส่งเสริม (Enhancement), ป้องกัน (Prevention), รักษา (Cure) และฟื้นฟู (Restoration)

          ”โครงการ รักษ บางกะเจ้า ได้ประสบความ สำเร็จในเรื่องของการส่งเสริม (Enhancement) และป้องกัน (Prevention) ที่เน้นศาสตร์การบูรณาการทางการแพทย์แบบองค์รวม ที่โดดเด่นด้านการดูแลเฉพาะรายบุคคล”

          นอกจากนี้ เพื่อที่จะยกระดับการให้บริการด้านเวลเนสและการแพทย์ให้ครอบคลุม รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย โดยมีแผนขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพ ด้วยการเน้นการส่งเสริม (Enhancement) และการป้องกัน (Prevention) เป็นหลัก ภายใต้แนวคิด Everyone’s wellness ที่เชื่อว่าสุขภาพดีเป็น เรื่องธรรมชาติและทำตามได้สำหรับทุกคน

          นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดเมดดิคัล วิลเลจ ในพื้นที่เดียวกับรักษ บางกะเจ้า เน้นไปที่การรักษา (Cure) และการฟื้นฟู (Restoration) สภาพร่างกาย ภายใต้คอนเซ็ปต์มิติใหม่ของการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล ผสานทุกศาสตร์จากตะวันตกและตะวันออกมาใช้ร่วมกับการแพทย์แบบองค์รวมท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อตอกย้ำการพัฒนาด้านการแพทย์และเวลเนสอย่างเต็มรูปแบบเพื่อยกระดับการให้บริการสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการและเป้าหมายด้านสุขภาพของผู้เข้ารับบริการในทุกมิติ

          ”การที่มั่นคงฯ ปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างโอกาส ทางธุรกิจและรายได้ที่สม่ำเสมอให้กับบริษัท  ซึ่งถือได้ว่าในปีนี้เป็นอีกปีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญครั้งใหญ่ ที่จะมุ่งต่อยอดตลาดธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าและธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างเต็มตัว เพื่อทำให้บริษัทมีการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน”

Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ