พลัสฯส่องอสังหาฯปี64 แนวราบมาแรงกลุ่ม 3-5 ลบ. ทะลัก - ศุภาลัยเร่งยอดโอน
”พลัส พร็อพเพอร์ตี้” ฉายภาพอสังหาริมทรัพย์ปี 2564 ตลาดอสังหาฯ แนวราบยังนำตลาด ผู้ประกอบการเน้นเปิดโครงการเฉพาะบนทำเลศักยภาพ พบบ้านเดี่ยวระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ยังมีสัดส่วนสูง ล่าสุดยังพบราคา 3-5 ล้านบาท เปิดขายบนทำเล ปทุมธานีลำลูกกา ส่วนทาวน์โฮม ได้ปัจจัยหนุนจากการ New Normal กลุ่มคนเริ่มทำงานหันซื้อทาวน์โฮม เหตุต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นตอบโจทย์การอยู่บ้านที่มากขึ้น จับตาคอนโดมิเนียมระดับราคา 80,000-150,000 บาทต่อ ตร.ม. ยังเป็นระดับที่กลุ่ม Real Demand ให้ความสนใจ เกาะ 3 แนวรถไฟฟ้าเส้นใหม่ ด้าน “ศุภาลัย” มาแรง อัดโปรกระตุ้นยอดโอนต้นปี 2564
นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 จะยังคงมีทิศทางไม่แตกต่างจากปลายปี 2563 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผู้ประกอบการต้องพึ่งพากำลังซื้อภายในประเทศ จึงคาดการณ์ว่ากลยุทธ์ด้านการลดราคาที่อยู่อาศัยจะยังถูกนำมาใช้ต่อไป และผู้ประกอบการจะหันมาพัฒนาโครงการที่ลูกค้าสามารถซื้อได้เฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพเท่านั้น
โดยในส่วนของที่อยู่อาศัยที่ขับเคลื่อนตลาดยังคงเป็นตลาดแนวราบที่ตอบโจทย์กลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ที่แม้ว่ากำลังซื้อเหล่านี้จะมีอย่างจำกัดแต่ก็มีแรงกระตุ้นจากปัจจัยดอกเบี้ยและราคาที่อยู่ในระดับต่ำทำให้ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ สำหรับตลาดบ้านเดี่ยวนั้นปี 2564 ตลาดบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท จะเป็นระดับราคาที่มีสัดส่วนสูงที่สุด
ทั้งนี้ในครึ่งปีหลัง 2563 ทำเลที่มีบ้านเดี่ยวระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทเปิดขายอยู่ในตลาดคือทำเลปทุมธานี-ลำลูกกา และบางบัวทอง สำหรับระดับราคาใกล้เคียงกันคือ 5-7 ล้านบาท มีเปิดขายอยู่ที่ทำเลปทุมธานี-ลำลูกกา เช่นกัน และทำเลบึงกุ่ม-คลองสามวา ส่วนระดับราคา 7-10 ล้านบาท พบที่ทำเลจตุจักร-ลาดพร้าว, ลาดกระบัง-มีนบุรี, ปากเกร็ด และบางกรวย ส่วนราคา 10 ล้านบาท พบในพื้นที่ตลิ่งชัน- ทวีวัฒนา, บางแค, ศาลายา-บางใหญ่, สุวรรณภูมิบางเสาธง
ทั้งนี้ ครึ่งหลังปี 2563 พบว่าบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท มีอุปทานขยายตัวมากที่สุด ขณะที่ระดับราคาสูงกว่า 10 ล้านบาทอุปทานเปิดใหม่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก 2563 ส่วนตลาดทาวน์โฮม จะยังคงมีปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เกิด New Normal ความต้องการพื้นที่ใช้สอยในที่อยู่อาศัยมากขึ้น เพื่อการทำกิจกรรมที่บ้านมากขึ้นและการ work from home ทำให้ผู้ซื้อที่เป็นกลุ่มเริ่มทำงานหันไปซื้อทาวน์โฮมแทนคอนโดมิเนียม
เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าในระดับราคาที่เปรียบเทียบกันได้ อีกทั้งระดับราคาของทาวน์โฮมสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวในทำเลเดียวกัน รวมถึงส่วนใหญ่จะอยู่ในทำเลที่ใกล้เมืองมากกว่าบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทยังคงเป็นอุปทานหลักในตลาด โดยทำเลที่ยังพบการเปิดขายในระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ได้แก่ ปทุมธานีลำลูกกา, กระทุ่มแบน-สามพราน
ส่วนระดับราคา 3-5 ล้านบาท พบในทำเลบางแค-บางบอน-ราชพฤกษ์, ดอนเมือง-สายไหม ระดับราคา 5-7 ล้านบาท พบที่ทำเลอ่อนนุชบางนา และระดับราคามากกว่า 7 ล้านบาทพบที่ทำเลจตุจักร-ลาดพร้าว
อย่างไรก็ดี ในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมนั้น คาดว่าในปี 2564 อุปทานจะลดลงต่อเนื่องจากปี 2563 ที่พบว่าครึ่งปีแรกอุปทานลดลง 11% มาอยู่ที่ 109,433 ยูนิต สะท้อนการปรับตัวที่ดีของผู้ประกอบการ และเกิดการพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการที่ราคาเอื้อมถึงง่ายขึ้น เพื่อช่วยดึงความต้องการของกลุ่ม Real Demand โดยโครงการระดับกลางหรือมีราคาระหว่าง 80,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร ที่มีราคาขายต่อยูนิตไม่เกิน 4 ล้านบาท ยังเป็นระดับราคาที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ โดยในครึ่งปีหลัง 2563 โครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคานี้ พบบริเวณแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ทั้งสายสีเหลือง สีส้ม และสายสีชมพู
ศุภาลัย เปิดตัวแรงเร่งยอดโอนต้อนรับปีฉลู 64
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯได้จัดโปรโมชันใหม่ล่าสุดต้อนรับปี 2564 เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในโครงการคุณภาพจากศุภาลัย ส่งโปรฯแรง “ศุภาลัย ค(ร)วนี้มีแต่ให้” สำหรับลูกค้าที่จองโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม สร้างเสร็จพร้อมอยู่ให้ครบ ฟรี! ค่าใช้จ่ายวันโอนฯ อาทิ ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ค่าจดจำนอง ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟ ค่าส่วนกลาง 1 ปีแรกและพิเศษ! กู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงินให้หมด ส่วนลดสูงสุดมูลค่า 2 ล้านบาทให้คืนกับข้อเสนอพิเศษที่ต้องห้ามพลาด (เงื่อนไขต่างๆเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม-31 มีนาคม 2564 นี้เท่านั้น
พบโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ บนทำเลศักยภาพมาตรฐานศุภาลัย ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเชิญเยี่ยมชมโครงการ ณ สำนักงานขาย ทั่วประเทศ โดยบริษัทฯ มีมาตรการดำเนินการที่คำนึงถึงสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ อาทิการตรวจวัดอุณหภูมิ ติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ ให้สวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าติดต่อสำนักงานและตลอดเวลาที่ใช้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเข้าเยี่ยมชมโครงการ
Reference: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา