ปตท.รุกตลาดอสังหาฯ ปั้นมิกซ์ยูส
นำร่องพลิกโฉมศูนย์ลูกเรือหลักสี่
บูมที่ดิน70ไร่รับรถไฟฟ้าสายสีแดง
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.เริ่มเข้าไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นธุรกิจใหม่ในอนาคต โดยซื้อที่ดิน 70 ไร่ ติดสถานีทุ่งสองห้องของรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต นำมาพัฒนาโครงการในอนาคต ขณะนี้อยู่ระหว่างวางรูปแบบโครงการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยพัฒนาเป็นมิกซ์ยูส ที่มีสำนักงานให้เช่า ทั้งนี้ หลังบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) บริษัทในเครือ ซื้ออาคารศูนย์ลูกเรือหลักสี่ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เนื้อที่ 19 ไร่ วงเงิน 1,810 ล้านบาท ทำให้ต้องชะลอแผนพัฒนาที่ดิน 70 ไร่ไว้ก่อน และเน้นพัฒนาโครงการที่หลักสี่เป็นหลัก ปัจจุบันมีผู้เช่าแล้วทั้งบริษัทในเครือ ปตท.และบริษัททั่วไป ในส่วนของธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดในพื้นที่สถานีบริการน้ำมันของ ปตท. หลังเกิดโควิดต้องทบทวนใหม่ว่าจะทำหรือไม่ทำ ขณะที่โครงการสมาร์ทซิตี้ที่ ปตท.มีแผนพัฒนาหลายแห่งนั้น จะไม่เดินหน้าต่อแล้ว เพราะมีโครงการวังจันทร์วัลเลย์ เนื้อที่ 3,454 ไร่อยู่แล้ว
นายชาญศักดิ์ ชื่นชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่วิศวกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน บมจ.ปตท.และประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับโครงการพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่าที่หลักสี่ ใช้เงินลงทุนกว่า 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นซื้ออาคารศูนย์ลูกเรือการบินไทยกว่า 1,800 ล้านบาท และปรับปรุงพื้นที่ใหม่ 700-800 ล้านบาท โดยกลางปีนี้พร้อมเปิดให้บริการ ปัจจุบันมีผู้เช่าแล้วทั้งบริษัทในเครือ ปตท.และบริษัทข้างนอก เช่น เทสล่าเช่าพื้นที่เพื่อเป็นสำนักงานให้บริการลูกค้า และเป็น ครั้งแรกที่เอนโก้ออกมาบริหารโครงการอาคารสำนักงานนอกจากบริหารให้ในเครือ ปตท.
”ส่วนที่ดิน 70 ไร่ติดสถานีทุ่งสองห้อง ต้องรอการปรับผังเมืองรวม กทม. เพื่อให้มีพื้นที่ก่อสร้างได้ 4 แสนตารางเมตร สร้างตึกสูงได้ จึงทำให้รูปแบบการพัฒนาโครงการยังไม่นิ่ง ในปีนี้คงจะต้องรีวิวแบบ และทำการปรับพื้นที่ เพื่อให้ผู้ร่วมลงทุนได้เห็นศักยภาพของที่ดิน เพราะโครงการนี้เราจะพัฒนาเป็นมิกซ์ยูส มีอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย มีสร้างลอยฟ้าลอดใต้รถไฟความเร็วสูงไปลงถนนวิภาวดีด้วย ล่าสุดมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 3-4 ราย สนใจจะร่วมลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่แล้ว” นายชาญศักดิ์กล่าว
Reference: หนังสือพิมพ์มติชน